สี จิ้นผิง รับเศรษฐกิจจีนกระทบหนัก แรงเขย่าระยะสั้น แต่ควบคุมได้

26 ก.พ. 2563 | 06:45 น.

จีน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นฟันเฟืองใหญ่ในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก กำลังเผชิญความท้าทายที่หนักหน่วงที่สุดในเวลานี้ นั่นคือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ที่ทำให้รัฐบาลจีนต้องประกาศควบคุมการเดินทางและการขนส่งภายในประเทศอย่างเข้มงวดเพื่อจำกัดพื้นที่การแพร่ระบาด

นอกจากนี้ยังเข้มงวดกับการควบคุมสุขอนามัยของสถานประกอบการโดยเฉพาะโรงงานหรือสถานที่ทำงานที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ทำให้สถานประกอบการหลายแห่งต้องเปิดทำการล่าช้าแม้ช่วงเทศกาลวันหยุดตรุษจีนจะผ่านพ้นไปแล้วนานนับสัปดาห์ก็ตาม แต่การเดินเครื่องการผลิต ก็ยังไม่สามารถทำได้ในระดับปกติเนื่องจากคนงานยังกลับเข้าทำงานไม่ครบจำนวน บางแห่งมีคนงานกลับเข้าทำงานเพียง 60-70% เท่านั้น

อีกทั้งการขนส่งวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตก็ยังมีอุปสรรคจากมาตรการควบคุมการเดินทางและขนส่ง สถานการณ์เหล่านี้ ทำให้ห่วงโซ่การผลิตในจีน ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ

ขณะที่อีกด้านหนึ่ง อุปสงค์ที่ลดลง ประกอบกับธุรกิจบริการไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และสถานบันเทิง ต่างยังคงปิดบริการในบางส่วน เนื่อง จากยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้บรรยากาศโดยรวมของธุรกิจภาคบริการยังคงซบเซาอย่างหนัก

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ออกมายอมรับเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 ก.พ.) ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของจีน แต่เชื่อว่าจะเป็นระยะสั้นและสามารถควบคุมได้ ทั้งนี้รัฐบาลจะปรับนโยบายให้สอดรับกับสถานการณ์เพื่อลดแรงกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ

ผู้นำจีนยังระบุว่า หลังจากที่มีการนำมาตรการต่างๆ มาใช้อย่างเต็มที่ ก็เริ่มเห็นแนวโน้มในทางที่ดีขึ้นแล้ว แต่รัฐบาลจีนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ “พวกเราไม่มีเวลาที่จะเหนื่อยล้าหรือรู้สึกเบาใจ เพราะการแพร่ระบาดยังคงมีอยู่ในระดับรุนแรงและเป็นสถานการณ์ที่มีความละเอียดอ่อน งานด้านการควบคุมและป้องกันเป็นสิ่งที่ยุ่งยากมากที่สุด และอยู่ในขั้นตอนที่สำคัญมาก”

สี จิ้นผิง รับเศรษฐกิจจีนกระทบหนัก แรงเขย่าระยะสั้น แต่ควบคุมได้

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยอมรับว่านี่คือช่วงเวลาแห่งวิกฤติ และเป็นบททดสอบที่สำคัญของจีน ในเบื้องต้นนั้นคาดว่าผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจของจีนจะปรากฏชัดในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งทำให้รัฐบาลจีนต้องเร่งมาตรการประคองและกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นอัดฉีดสภาพ คล่องเงินสดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหรือการสนับสนุนให้ธนาคารปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ยังสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือให้ระยะปลอดดอกเบี้ยสำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากไวรัสดังกล่าว รวมทั้งบริษัทที่ให้ความร่วมมือกับทางการในการต่อสู้กับการแพร่ระบาด เช่น เอกชนที่ขยายสายการผลิตใหม่เพื่อผลิตหน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นสำหรับการรับมือกับโรคระบาดครั้งนี้ ก็จะได้รับการสนับสนุนทางการเงิน

ผู้นำของจีนย้ำว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เช่น ผู้ประกอบการรายย่อย จะได้รับความช่วยเหลือ เช่นในรูปของการลดหย่อนภาษี เพื่อให้สามารถประคองธุรกิจต่อไปได้ นอกจากนี้ยังจะช่วยบัณฑิตจบใหม่ให้มีงานทำ “มณฑลที่มีความเสี่ยงน้อย (จากไวรัสโคโรนา) ควรเน้นฟื้นฟูการจ้างงานและฟื้นกำลังการผลิตให้เต็มที่ ส่วนมณฑลที่มีความเสี่ยงระดับปานกลางควรมุ่งเป้าหมายไปที่การค่อยๆ กลับมาดำเนินการหรือฟื้นกำลังการผลิตอย่างเป็นระบบ ขณะที่มณฑลที่มีความเสี่ยงสูง ต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค”

สี จิ้นผิง รับเศรษฐกิจจีนกระทบหนัก แรงเขย่าระยะสั้น แต่ควบคุมได้

นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจีน ศ.นูเรียลรูบินี จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม ดร.ดูม (Dr.Doom) เนื่องจากการวิเคราะห์ที่แม่นยำ และการพูดที่ตรงไปตรงมา เปิดเผยกับฟ็อกซ์ นิวส์ สื่อใหญ่ของสหรัฐเมื่อเร็วๆ นี้ว่า แรงกระทบจากไวรัสโคโรนาที่เริ่มแผ่กระจายไปสู่ระบบเศรษฐกิจของจีนและลุกลามไปจนสัมผัสได้ในต่างประเทศ ทั้งสหรัฐฯ และประเทศ อื่นๆ ทั่วโลก จะทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจในขั้นรุนแรงต่อประเทศจีน และเชื่อว่าจีดีพีของจีนในปีนี้จะลดลงมาอยู่ที่ระดับไม่เกินไปกว่า 4% (ซึ่งจะเป็นการลดจากระดับ 6.1% ในปีที่ผ่านมา) “

นั่นหมายความว่า เศรษฐกิจของจีนที่เติบโตในอัตราช้าที่สุดอยู่แล้วในปี 2562 จะหดตัวลง 1 ใน 3” และด้วยความที่เศรษฐกิจของจีนมีสัดส่วนขับเคลื่อนการเติบโต 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลก ดังนั้น ผลกระทบที่จะมีต่อการค้าโลกทั้งหมดในภาพรวม รวมทั้งผลกระทบที่จะมี ต่อความมั่นใจของนักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจึงมีสูงมาก ซึ่งในเบื้องต้นและในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะสะท้อนให้เห็นจากธุรกิจการท่องเที่ยวของโลกและธุรกิจสายการบิน

หน้า 23 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,552 วันที่ 27 - 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

สี จิ้นผิง รับเศรษฐกิจจีนกระทบหนัก แรงเขย่าระยะสั้น แต่ควบคุมได้