ทุบกำแพงวีซ่า! ชวนต่างชาติเยือนแดนหมีขาว

23 ก.พ. 2563 | 02:01 น.

คอลัมน์หลังกล้องไซบีเรีย : ทุบกำแพงวีซ่า! ชวนต่างชาติเยือนแดนหมีขาว

 

          แม้ว่าจากการจัดอันดับพาสปอร์ตที่ทรงอิทธิพลของโลก หนังสือเดินทางไทยไม่ค่อยได้อันดับที่ดีเท่าไหร่นัก เช่นในปีล่าสุดที่อยู่ในอันดับที่ 65 ของโลกเพราะจำนวนประเทศที่เดินทางเข้าไปได้โดยไม่ต้องพึ่งวีซ่ายังไม่มากมายนัก แต่ประเทศหนึ่งที่คนไทยเดินทางไปเที่ยวได้ง่ายๆ ฟรีวีซ่ามากถึง 30 วันขนาดที่คนยุโรปยังต้องร้อง ว้าว! ด้วยความอิจฉาก็คือ “รัสเซีย”
          รัสเซียเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดเรื่องความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก จะขอทีขั้นตอนยุ่งยาก เสียเวลา ต้องใช้หนังสือเชิญจากองค์กรที่น่าเชื่อถือหรือมากับบริษัททัวร์ประกอบ ส่วนฟรีวีซ่าระยะสั้นแจกให้แก่กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอดีตสหภาพโซเวียต กลุ่มประเทศทวีปอเมริกาใต้ และประเทศอื่นๆ เพียงหยิบมือเท่านั้น อย่างในเอเชียมีเพียงเกาหลีใต้ ลาว ไทย มาเก๊า ฮ่องกง และบรูไนที่ได้รับข้อยกเว้นนี้ด้วย

ทุบกำแพงวีซ่า! ชวนต่างชาติเยือนแดนหมีขาว

 


          แน่นอนว่าสถานการณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปี 2563 นี้ คงได้รับผลกระทบเป็นโดมิโน่กันถ้วนหน้าอย่างแน่นอนพ่วงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 ที่ทั้งทางจีนเองก็กันคนออก หลายประเทศก็ห้ามพลเมืองจีนเข้ารวมถึงรัสเซีย แต่ละที่มักมีชาวจีนเป็นหนึ่งในลูกค้าหลักกันทั้งนั้น แต่สำหรับที่รัสเซีย “อี-วีซ่า” อาจกลายมาเป็นความหวังที่จะกอบกู้อุตสาหกรรมให้กับประเทศในอนาคตอันใกล้นี้ได้
          “อี-วีซ่า” หรือระบบขอรับการตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มใช้อย่างแพร่หลายในหลายประเทศ เพราะผู้ขอสามารถกรอกข้อมูลส่วนตัวได้ทางออนไลน์ง่ายๆ สำหรับรัสเซียเพียงนอนรออยู่บ้าน 4 วันก็รู้ผล และสามารถปรินท์คำอนุมัติไปยืนที่ตม.ได้เลยทันทีไม่ต้องเสียเวลาวิ่งไปถึงสถานทูต

          รัฐบาลรัสเซียเดินหน้าเริ่มการผ่อนผันความเข้มงวดในการขอวีซ่ามาสักพักใหญ่ๆ แล้ว หลังจากปิ๊งไอเดียจากระบบ “FAN ID” แทนวีซ่าของงานฟุตบอลโลกซึ่งรัสเซียเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2561 ที่เอื้อให้ชาวต่างชาติเข้ามาเยือนได้ง่ายขึ้นจนตัวเลขนักท่องเที่ยวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงเชื่อว่าถ้าอนุมัติวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ให้ของ่าย ไม่ยุ่งยาก คาดว่าในระยะยาวน่าจะดึงคนเข้ามาเพิ่มขึ้นถึง 10-30% 
          “อี-วีซ่า” ของรัสเซีย ความจริงเริ่มใช้มาหลายปีแล้ว แต่จำกัดให้อยู่ภายในเมืองที่ทำเรื่องขอมาเท่านั้น ปัจจุบันให้เพียงไม่กี่เมืองสำคัญเช่นเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก คราลินินกราด วลาดิวอสตอก เป็นต้น และอยู่ได้สูงสุดเพียง 8 วัน ด้วยนโยบายใหม่นี้ จะขยายเพิ่มให้เข้ามาท่องเที่ยวได้ถึง 16 วัน และเดินทางไปยังเมืองใดก็ได้ภายในประเทศ ใจป้ำปลดล็อกให้แก่พลเมือง 53 ประเทศทั่วโลกเลยทีเดียว ส่วนประเทศไหนที่ยังต้องขอวีซ่า ก็จะลดขั้นตอน ลดเอกสารลง
          แต่ละปีรัสเซียมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่า 24 ล้านคนจากสถิติขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) สร้างรายได้หลักพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ถึงอย่างนั้นที่ผ่านมาอุตสาหกรรมกลับไม่ได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจัง อาจเป็นเพราะเมื่อเทียบกับจีดีพีรวมของประเทศในเลข 13 หลัก หรือล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ การท่องเที่ยวคิดเป็นอัตราส่วนราว 3% เท่านั้น ไม่ใช่รายได้หลักของประเทศ
          ทั้งที่แดนหมีขาวขึ้นชื่อเรื่องความกว้างขวาง มีธรรมชาติที่สวยงาม มีแหล่งประวัติศาสตร์สำคัญ มีมรดกโลกที่ได้รับรองจากยูเนสโกมากถึง 29 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ น่าเสียดายที่ความยากลำบากในการขอวีซ่า กลับกลายมาเป็นส่วนหนึ่งสะกัดกั้นความรู้สึกอยากไปค้นหา
          แต่ “วีซ่า” น่าจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งของปัญหานี้

ทุบกำแพงวีซ่า! ชวนต่างชาติเยือนแดนหมีขาว

          ขอยกตัวอย่างใกล้ๆ ตัว ลองนึกภาพว่าขนาดไทยที่ได้รับฟรีวีซ่าถึง 30 วัน ระยะทางระหว่างสองประเทศไม่ไกลจนเกินไป สิทธิพิเศษนี้ยังไม่สามารถดึงดูดใจให้คนไทยไปเที่ยวจนบูมกลายเป็นกระแสคึกคักได้เท่าไหร่นัก แม้ว่าจะดีขึ้นในช่วงหลายปีให้หลังแล้วบ้าง
          เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้วการเดินทางมาเที่ยวรัสเซียค่อนข้างเป็นเรื่องท้าทาย เพราะข้อมูลการท่องเที่ยวยังไม่แพร่หลายมากนัก จะหาข้อมูลตามกระทู้พันทิพแทบไม่มี บวกกับพูดภาษาเขาไม่ได้ ตามสถานที่ท่องเที่ยว รถสาธารณะไม่มีป้ายภาษาอังกฤษบอก ส่วนเจ้าถิ่นส่วนใหญ่พูดภาษาสากลไม่เป็น หากไม่ทำการบ้านก่อนเดินทาง หรือไม่ได้มีไกด์พาเที่ยว อาจเป็นเรื่องลำบากจนหมดสนุกเลยทีเดียว แน่นอนว่าปัจจุบันนี้หลายปัญหาที่กล่าวมาเริ่มได้รับการแก้ไขแล้ว ทว่าภาพจำ ภาพลักษณ์เหล่านั้นยังคงสลัดไม่หลุด
          หากรัฐบาลรัสเซียต้องการหันมาพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง ควรจะต้องเริ่มจากการโปรโมทภาพลักษณ์ความเข้าถึงง่าย ความปลอดภัย และความเป็นกันเองเสียก่อน สถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกน่าสนใจมีอยู่หลากหลาย เมื่อดึงจุดเด่นออกมาได้ตรงใจ ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน หรือต้องผ่าฟันกับด่าน “วีซ่า” กี่ด่านก็คงไม่ใช่อุปสรรค

 

หลังกล้องไซบีเรีย
เรื่อง: ยลรดี ธุววงศ์  ภาพ: Kremlin.ru

** พบกับ คอลัมน์ “หลังกล้องไซบีเรีย” ทุกวันอาทิตย์ ทุกช่องทางออนไลน์ของ “ฐานเศรษฐกิจ" **
Bio นักเขียน : “ยลรดี ธุววงศ์” อดีตนักข่าวที่ผ่านสนามข่าวทั้งในและต่างประเทศ จากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ และ Spring News ปัจจุบันเป็นนิสิตปริญญาโทอยู่ในส่วนที่หนาวเย็นที่สุดของประเทศรัสเซีย