โอกาสทอง บุกตลาดผลิตภัณฑ์แก้ผมร่วงในจีนด้วยกลยุทธ์ออนไลน์ (1)

ผมร่วง เป็นปัญหาหนึ่งที่สร้างความกังวลให้กับคนวัยหนุ่มสาวทั้งชายและหญิงเป็นอย่างมาก เพราะบ่งบอกได้ถึงสัญญาณของการหัวล้าน และที่สำคัญภาวะผมร่วงมีแนวโน้มเกิดขึ้นกับวัยรุ่นในประเทศจีนมากขึ้น ในปัจจุบันประเทศ​จีนมีประชากรที่มีปัญหา​ผมร่วงสูงถึง 250 ล้านราย ส่วนใหญ่อยู่ใน 2 ช่วงอายุ ได้แก่ 23-25 ปี และ 34-36 ปี โดยผู้ชายครองสัดส่วนมากที่สุดที่ 160 ล้านราย คิดเป็น 23% ของผู้ชายทั้งหมดในจีน ส่วนใหญ่​จะเริ่มมีปัญหา​ผมร่วงเมื่อเข้าสู่อายุ 30 ปี

จากสถิติของ the World Health Organization (WHO) ยังบ่งบอกอีกว่าผู้บริโภครุ่นใหม่ในจีนนั้นกำลังประสบกับปัญหาผมร่วง-ผมบางอย่างหนัก โดยในคนจีนทุกๆ 6 คนจะมีคนประสบกับปัญหาผมร่วงอย่างน้อย 1 คน นอกจากนี้ผลวิจัยจากบริษัท​เทคโนโลยี​สุขภาพของ Alibaba ยังชี้ให้เห็นอีกว่าผมบางเริ่มเป็นปัญหา​มากขึ้นในกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย ซึ่งมีสาเหตุมาจากความเครียดจากการเรียนและอาการนอนไม่หลับ คนจีนจึงหันมาใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมในแต่ละปีเพิ่มมากขึ้น 30% โดยมีการคาดการณ์​ว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า​ ธุรกิจบำรุงและปลูกเส้นผมจะเติบโต 260%

ในปี 2562 ตลาดปลูกผมในจีนมีมูลค่ามากกว่า 16,270 ล้านหยวน ซึ่งเพิ่มจากมูลค่าตลาด 4,000 ล้านหยวนในปี 2559 หรือมีการเจริญเติบโตถึง 4 เท่าภายในระยะเพียง 3 ปี ซึ่งคนรุ่นใหม่ได้แสวงหาบริการเพื่อแก้ไขปัญหาหัวล้านและผมบางมากถึง 57.4% ในทางกลับกันคนที่เกิดในยุค 70s หรือคนที่มีอายุ 50-59 ปี มีเพียง 7.1% เท่านั้นที่แสวงหาการบริการ จึงถือได้ว่าคนรุ่นใหม่นั้นคือวัยหลักในการขับเคลื่อนตลาดนี้ เนื่องจากคนเหล่านี้จะมีความกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตนเองมากกว่าวัยอื่น อีกทั้งยังมีกำลังซื้อที่สูงอีกด้วย โดยมณฑลที่กำลังมีผู้ประสบปัญหาหัวล้านมากที่สุด 5 อันดับในจีน ได้แก่ มณฑลกวางตุ้ง กรุงปักกิ่ง มณฑลเจียงซู นครเซี่ยงไฮ้ และมณฑลชานตง

เมื่อพูดถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาผมร่วงหรือผมบางนั้น จะครอบคลุมไปถึงแชมพูสระผม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และธุรกิจที่ให้บริการปลูกผม ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด ก็คงไม่พ้นแชมพูป้องกันผมร่วง ซึ่งกำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเมื่ออ้างอิงจากข้อมูลในปี 2561 พบว่ามูลค่าการค้าขายแชมพูป้องกันผมร่วงนั้น มีมูลค่าถึง 1.13 พันล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้น 15.3% ปีต่อปี และได้มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดของแชมพูประเภทนี้จะมีมูลค่าเกินกว่า 1.5 พันล้านหยวนภายในปีนี้ (2563) และกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่จะยังคงเป็นผู้บริโภคหลักต่อไป

แชมพูปลูกผมและแก้ปัญหา​ผมร่วง มียอดขายบน JD.com หรือบริษัทที่รู้จักกันในฐานะแพลตฟอร์ม E-commerce ยักษ์ใหญ่ของจีน เพิ่มขึ้นถึง 136% แค่ในไตรมาสแรกของปี 2561 ที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันในปี 2560 ผลิตภัณฑ์​เกี่ยวกับบำรุงผม ผลิตภัณฑ์แก้ปัญหา​ผมร่วง และผลิตภัณฑ์ปลูกผมนั้น สามารถเข้ามาสู่ 40 อันดับสินค้าขายดีใน Taobao ซึ่งเป็นอีกหนึ่งยักษ์​ใหญ่ในด้าน E-commerce ของจีน โดยมากกว่า 40% ของลูกค้าที่ซื้อสินค้าเหล่านี้ มีอายุต่ำกว่า 30 ปี

ด้วยเหตุนี้ทำให้บริษัทต่างๆ หันมาเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดโดยเจาะกลุ่มไปที่ผู้บริโภครุ่นใหม่เป็นหลัก โดยแบรนด์แชมพูลดปัญหาผมร่วงชื่อดังในจีนอย่าง แบรนด์ ป้าหวัง (Bawang) ก็เพิ่งจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาให้กับตัวการ์ตูน Bawang elf family ที่ใช้บนบรรจุภัณฑ์ของบริษัทเพื่อดึงดูดผู้บริโภครุ่นใหม่ นอกจากนี้ทางแบรนด์ก็ยังได้เปลี่ยนพรีเซนเตอร์ใหม่ จากนักแสดงอย่าง Jackie Chan (เฉินหลง) เป็นนักร้องที่ชื่อ Mao Buyi ซึ่งกำลังโด่งดังอยู่ในหมู่วัยรุ่น โดยเฉพาะผู้บริโภคที่เกิดยุค 90s เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์นั้นดูเด็กยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถเจาะตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายกว่า นอกจากนี้นักวิเคราะห์การตลาดยังเสริมอีกว่ากลุ่มธุรกิจแก้ปัญหาผมร่วงนั้นยังสามารถเติบโตได้อีกมาก

จากความต้องการตลาดที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้นักลงทุนต่างชาติต่างก็มีความสนใจที่จะเข้าไปทำธุรกิจประเภทนี้ในจีน โดยแบรนด์แชมพูป้องกันผมร่วงที่มียอดขายสูงที่สุดในเยอรมนี อัลเปซิน (Alpecin) ได้ทำการบุกตลาดจีนเข้าไปแล้ว โดยผ่านช่องทางออนไลน์กว่า 30 แพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Tmall, JD.com หรือ Vipshop โดย Alpecin สามารถทำยอดขายทุบสถิติ 60,000 ขวดภายใน 24 ชั่วโมงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในวันคนโสด 11.11 และขณะนี้ทางบริษัทกำลังประสบปัญหาสินค้าขาดตลาดชั่วคราวสืบเนื่องมาจากความต้องการซื้อจากกลุ่ม
ผู้บริโภคชาวจีนที่มีจำนวนมาก

นอกจากนี้ Alibaba บริษัท E-commerce อันดับ 1 ของจีน ก็ยังได้ประกาศในงานมหกรรมแสดงสินค้า China international Import Expo (CIIE) เมื่อปี 2561 อีกว่า Alibaba จะนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศถึง 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากในปัจจุบัน Alibaba นั้นมีผู้ใช้เกือบ 700 ล้านคน ซึ่งมากกว่าประชากรทั้งหมดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสทองของผู้ประกอบการต่างชาติรวมถึงผู้ประกอบการชาวไทยที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดจีน

สำหรับบทความตอนต่อไป ทางศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ จะนำเสนอ ช่องทางการนำผลิตภัณฑ์แก้ไขปัญหาผมร่วง เข้าสู่ตลาดออนไลน์ในจีน รวมไปถึงกลยุทธ์และวิธีการสำหรับการเจาะกลุ่มเป้าหมายในจีนอีกด้วย โปรดติดตาม 

หน้า 23 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,551 วันที่ 23 - 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563