พิษไวรัสทำ “สิงคโปร์ แอร์โชว์” กร่อย  กว่า 70 บริษัทแห่ถอนตัว

12 ก.พ. 2563 | 10:41 น.

 

สิงคโปร์ แอร์โชว์ เป็นงานแสดงด้านเทคโนโลยีอากาศยานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย จัดขึ้นทุกๆ 2 ปีที่ประเทศสิงคโปร์ แต่งานในปีนี้ซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 11 ก.พ.กลับเงียบผิดคาด จากที่เคยมีบริษัทนานาชาติมาตั้งบูธแสดงผลงานและนวัตกรรมนับร้อยๆราย บรรยากาศงานในปีนี้กลับแตกต่างออกไป โดยมีหลายบูธว่างเปล่า เนื่องจากมีบริษัทผู้ร่วมแสดงนวัตกรรมในงาน หรือ exhibitor ขอถอนตัวออกจากงานจำนวนมากกว่า 70 บริษัท

 

สื่อต่างประเทศรายงานว่า การถอนตัวไม่ร่วมงานครั้งนี้เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรนา Covid-19 ที่รู้จักกันดีก่อนหน้านี้ในนาม “ไวรัสอู่ฮั่น” ในจีนและหลายประเทศแถบเอเชีย รวมทั้งสิงคโปร์ที่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสดังกล่าวแล้ว 47 คน ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์ยกระดับการเตือนภัยด้านสุขภาพต่อประชาชนขึ้นมาสู่ระดับสูงสุด เช่นเดียวกับที่เคยทำมาแล้วในปี 2545- 2546 เมื่อมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโรคซาร์ส (SARS) ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกเกือบๆ 800 คน    

พิษไวรัสทำ “สิงคโปร์ แอร์โชว์” กร่อย  กว่า 70 บริษัทแห่ถอนตัว

ในบรรดาบริษัทชั้นนำด้านอากาศยานที่ขอถอนตัวจากการร่วมงาน “สิงคโปร์ แอร์โชว์” ในปีนี้ ได้แก่บริษัท ล๊อคฮี้ด มาร์ติน จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นทั้งผู้ผลิตอากาศยานพลเรือน เครื่องบินรบ และยุทโธปกรณ์ป้อนให้กับประเทศต่างๆทั่วโลก แถลงการณ์ของบริษัทชี้แจงว่า การตัดสินใจไม่เข้าร่วมงานครั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของพนักงานเป็นหลัก  บริษัทอื่นๆที่ถอนตัวยังได้แก่ บริษัท บอมบาร์ดิเอร์ และบริษัท เดอ ฮาวิลแลนด์ จากแคนาดา  ความแตกต่างของงานในปีนี้ยังได้แก่ การยกเลิกจัดสัมมนาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอากาศยาน ซึ่งโดยปกติจะมีขึ้นก่อนเปิดงานนิทรรศการ 1 วัน
 

พิษไวรัสทำ “สิงคโปร์ แอร์โชว์” กร่อย  กว่า 70 บริษัทแห่ถอนตัว

ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือ มีบริษัทในแวดวงอุตสาหกรรมอากาศยานจากจีนแผ่นดินใหญ่อย่างน้อย 10 รายที่จำเป็นต้องถอนตัวจากงานในปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลสิงคโปร์ได้ประกาศไม่ออกวีซ่าให้กับบุคคลใดก็ตามที่เดินทางมาจากประเทศจีน เป้าหมายก็เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19  

 

ด้านผู้จัดยอมรับว่า ต้องเดินหน้าจัดงานต่อไปให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ได้มีการออกมาตรการเชิงป้องกัน เช่น การจำกัดจำนวนตั๋วเข้างานที่ออกให้กับสาธารณชนทั่วไป และประกาศแนะนำให้ผู้ที่เข้ามาร่วมงานหลีกเลี่ยงการจับมือทักทายกัน แล้วหันมาใช้วิธีโบกมือทักทาย ก้มศีรษะ หรือโค้งคำนับทักทายกันแทนไปก่อน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสผ่านการสัมผัส  

 

โจทย์หินของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบิน

นายแลม เล็ก เช็ต กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็กซพีเรีย อีเวนต์ ซึ่งเป็นผู้จัดงาน “สิงคโปร์ แอร์โชว์” เผยว่า ความปลอดภัยและสุขภาพของผู้เข้าร่วมงานเป็นสิ่งที่บริษัท ในฐานะผู้จัด ให้ความสำคัญมากที่สุด ทั้งนี้ แม้จะมีบริษัทผู้ร่วมงานขอถอนตัวออกไปมากกว่า 70 บริษัท แต่ภายในงานก็ยังมี 930 บริษัทที่ยังคงยืนหยัดร่วมงาน ซึ่งรวมทั้งบริษัท โบอิ้ง และแอร์บัส  สองยักษ์ใหญ่อากาศยานจากอเมริกาและยุโรป   ส่วนผู้เข้าชมซึ่งเป็นผู้ค้า (trade attendees) เข้างานแล้ว 45,000 คนจากกว่า 45 ประเทศ  

 

ตัวแทนสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือไออาตา  (International Air Transport Association: IATA) ยอมรับว่า นี่คือช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างมากสำหรับผู้ที่อยู่ในแวดวงอากาศยานและสายการบิน เพราะต่างก็ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 และมาตรการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่มีตามมา โดยเฉพาะการลดเที่ยวบินเข้า-ออกประเทศจีน และการไม่ออกวีซ่าให้แก่ชาวจีนหรือนักเดินทางที่เดินทางมาจากประเทศจีน เป็นต้น แต่หากจะให้ประเมินความเสียหายในขณะนี้ ก็เห็นว่ายังอาจจะเร็วเกินไป แต่ยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีตเมื่อครั้งการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส (ปี 2545-2546) ที่มีจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดมาจากประเทศจีนเช่นเดียวกัน ในครั้งนั้น บริษัทสายการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคสูญเสียรายได้ไปประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

พิษไวรัสทำ “สิงคโปร์ แอร์โชว์” กร่อย  กว่า 70 บริษัทแห่ถอนตัว

เที่ยวบินลด-หดรายได้

ด้านนายราจีฟ บิสวาส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกจาก สถาบันวิจัย ไอเอชเอส มาร์กิต (IHS Markit) ให้ความเห็นเสริมว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภาพรวมกำลังได้รับผลกระทบรุนแรงจากมาตรการห้ามชาวจีนและบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศจีน เข้าประเทศ  ทั้งนี้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีน มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 20 ล้านคนในปี 2546 เป็น 150 ล้านคนในปี 2561 ถือเป็นกลุ่มที่มีบทบาทอย่างมากต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลก  

 

ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตอากาศยานอย่างบริษัท โบอิ้ง ที่มาร่วมงานสิงคโปร์ แอร์โชว์ ได้ออกแถลงข่าววานนี้ (11 ก.พ.) ระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ซึ่งทำให้หลายสายการบินลดหรือยกเลิกเที่ยวบินเข้า-ออกประเทศจีน และทำให้หลายประเทศระงับการออกวีซ่าให้กับชาวจีนและผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีนหรือเคยไปจีนในระยะเวลาเร็วๆนี้ ได้ส่งผลต่ออุตสาหกรรมการบินรวมทั้งเศรษฐกิจในภาพรวมเป็นอย่างมาก  

 

นายอิสเซน มูเนียร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายขายและการตลาดของโบอิ้ง ให้ความเห็นว่า หลายสายการบินจำกัดการบินเข้า-ออกประเทศจีน นั่นหมายถึงการสูญเสียรายได้ทั้งนั้น  เพราะตีความได้ว่า การบิน(เดินทาง)ไปเจรจาธุรกิจจะไม่เกิดขึ้น รวมทั้งการขนส่งสินค้าเข้า-ออกประเทศจีน(ทางอากาศ) จะไม่เกิดขึ้น “ทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ ต่อรายได้  และต่อสายการบิน อย่างไม่มีข้อสงสัยเลย”