หน้ากากอนามัยขาดตลาด ไต้หวันระงับส่งออก 1 เดือน

26 ม.ค. 2563 | 12:39 น.

 

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้ทางการจีนยกระดับมาตรการควบคุมโรคขั้นสูงสุดทั่วประเทศแล้ว ส่งผลให้ประชาชนทั่วไป หน่วยงาน และองค์กรต่างๆ มีความต้องการใช้หน้ากากการแพทย์ หน้ากากอนามัย และผลิตภัณฑ์ทามือฆ่าเชื้อ พุ่งขึ้นสูงมาก สื่อท้องถิ่นของจีนรายงานว่า ร้านค้าออนไลน์ชื่อดังของจีนหลายราย ไม่ว่าจะเป็นเจดีดอตคอม (JD.com) เว็บไซต์เถาเป่า (Taobao)ในเครืออาลีบาบา และเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซ อีกหลายรายต้องพบกับภาวะสินค้าขาดสต๊อค ไม่สามารถส่งสินค้าตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

หน้ากากอนามัยขาดตลาด ไต้หวันระงับส่งออก 1 เดือน

เว็บไซต์เถาเป่าระบุว่า กำลังเร่งสั่งหน้ากากอนามัยล็อตใหม่เข้าสต๊อค หลังจากที่ทำยอดจำหน่ายไปแล้ว 80 ล้านชิ้นภายในเวลาเพียง 2 วันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เจดีดอตคอมเปิดเผยยอดขายหน้ากากอนามัยระหว่างวันที่ 19-22 ม.ค.ที่ผ่านมา จำนวนมากกว่า 126 ล้านชิ้น และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัญหาคือสินค้ากำลังขาดสต๊อค สินค้าขายดีอื่นๆยังได้แก่ เจลล้างมือฆ่าเชื้อ ปรอทวัดไข้ ยารักษาหวัด และแว่นตาการแพทย์ “สินค้าอาจขาดตลาดชั่วคราว แต่ลูกค้าไม่ต้องกังวลใจ เราจะเพิ่มสินค้าเข้าสต๊อคในเร็ววันนี้” ข้อความของเว็บไซต์ระบุ

 

เป็นที่สังเกตว่า นักท่องเที่ยวจีนที่สามารถเดินทางออกไปยังต่างประเทศแล้วก่อนที่ทางการจีนจะมีคำสั่งห้ามกรุ๊ปทัวร์เดินทางออกนอกประเทศในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น นิยมหาซื้อหน้ากากอนามัยในต่างแดนตุนไว้เช่นกัน บ้างก็ซื้อหน้ากากอนามัยหลายกล่องเป็นของฝากญาติสนิทมิตรสหายในประเทศจีน โดยพวกเขายอมรับว่า หน้ากากอนามัยกลายเป็นสิ่งหายากและเริ่มขาดตลาดแล้วในขณะนี้ เนื่องจากรัฐบาลจีนแนะนำให้ประชาชนทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

 

 

โรงงานผลิตเร่งเดินเครื่อง 24 ชั่วโมง

ทางด้านผู้ผลิต ข่าวระบุว่าโรงงานผลิตหลายแห่งขอให้คนงานกลับเข้ามาทำงานในสายการผลิตแม้ว่าจะเป็นช่วงวันเทศกาลวันหยุดตรุษจีนก็ตาม ขณะที่ร้านค้าออนไลน์พยายามตรึงราคาเอาไว้แม้สินค้าจะเริ่มขาดตลาดแล้วก็ตาม

 

นายฮิโตชิ วาทานาเบะ โฆษกของบริษัท ยูนิชาร์ม คอร์ป. ผู้ผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทรับรู้ถึงสถานการณ์และนับตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. เป็นต้นมา ทางโรงงานของบริษัทได้เร่งเดินเครื่องการผลิตตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากยอดสั่งซื้อมีเพิ่มเข้ามาสูงขึ้น 10 เท่า     

 

บริษัท 3เอ็ม จากสหรัฐอเมริกา เผยว่ากำลังเพิ่มการผลิตเช่นกันและประสานงานกับบริษัทตัวแทนจำหน่ายเพื่อสร้างความมั่นใจว่าสินค้าจะไม่ขาดสต๊อคและมีเพียงพอที่จะป้อนให้กับลูกค้าของบริษัทที่มีอยู่  

 

ทั้งนี้ ภาวะหน้ากากอนามัยขาดตลาดไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะภายในประเทศจีนที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เท่านั้น แต่ยังลามไปถึงฮ่องกงซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นประกาศมาตรการเฝ้าระวังขั้นสูงสุดเช่นกัน สื่อท้องถิ่นของฮ่องกงระบุว่า ร้านขายยาบางแห่งยืนยันหน้ากากอนามัยและยาฆ่าเชื้อขาดสต๊อคมาเป็นเวลา 2 วันแล้ว และถุงมือแพทย์ก็มียอดขายพุ่งสูงขึ้นมาก แต่ภาวะสินค้าขาดตลาดนั้น คาดว่ามีสาเหตุส่วนหนึ่งจากโรงงานผู้ผลิตหลายแห่งปิดทำการในช่วงวันหยุดตรุษจีน ซึ่งนั่นหมายความว่าภาวะขาดตลาดอาจใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์แต่หลังจากนั้นก็จะคลี่คลาย  

 

ในมาเก๊า รัฐบาลท้องถิ่นป้องกันปัญหาการกักตุนหน้ากากอนามัยด้วยการ ออกคำสั่งจำกัดการซื้อสูงสุดเพียงคนละ 10 ชิ้นคนต่อครั้ง ซึ่งครอบคลุมถึงคนมาเก๊าและคนงานต่างชาติที่เข้าไปทำงานในมาเก๊าและมีเอกสารแสดงตน  

หน้ากากอนามัยขาดตลาด ไต้หวันระงับส่งออก 1 เดือน

 

 

ไต้หวันระงับส่งออก สำรองใช้ฉุกเฉินในประเทศ

ความต้องการใช้ที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงมากในช่วงนี้ ทำให้ทางการไต้หวันซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกหน้ากากอนามัย N95 รายใหญ่ของโลก สั่งระงับการส่งออกเป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 1 เดือน

 

ไต้หวันนิวส์ สื่อท้องถิ่นของไต้หวัน เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ขยายวงกว้างออกไปในหลายๆประเทศ ซึ่งในไต้หวันเองมีรายงานยืนยันผู้ติดเชื้อ 1 ราย ทำให้รัฐบาลไต้หวันตัดสินใจระงับการส่งออกหน้ากากอนามัยรุ่น N95 เป็นเวลา 1 เดือนเพื่อสำรองใช้ภายในประเทศ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ประกาศคือวันที่ 24 ม.ค.ไปจนถึงวันที่ 23 ก.พ.นี้  การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันให้หลังจากที่นายซู เจิน ชาง นายกรัฐมนตรีไต้หวันเพิ่งออกมายืนยันว่าปริมาณหน้ากากอนามัยในไต้หวันมีเพียงพอและไม่จำเป็นต้องสำรองใช้มากจนเกินจำเป็น แต่เมื่อสถานการณ์ในจีนเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทางการไต้หวันก็ตัดสินใจระงับการส่งออกเป็นเวลา 1 เดือนทันที  

 

ทั้งนี้ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวันเปิดเผยว่า บริษัทผู้ผลิตหน้ากากอนามัยของไต้หวันมีสมรรถนะในการผลิตขั้นสูงสุดวันละ 2.44 ล้านชิ้น ซึ่งมากเกินความต้องการใช้ภายในประเทศที่อยู่ที่ระดับเฉลี่ยวันละ 1.3 ล้านชิ้น