จีนร่วมแบนถุงพลาสติก เลิกใช้ทั่วประเทศในปี 65

20 ม.ค. 2563 | 11:25 น.

 

ในฐานะประเทศที่เป็นผู้ใช้พลาสติกและเป็นผู้สร้างขยะพลาสติกรายใหญ่ที่สุดในโลก รัฐบาลจีนประกาศแผนยุทธศาสตร์สำคัญวานนี้ (19 ม.ค.) ในการต่อสู้กับปัญหาขยะพลาสติกอย่างครบวงจร โดยนอกจากจะมีการกำกับดูแลตั้งแต่การผลิต การใช้ การรีไซเคิล และการทิ้ง(พลาสติกใช้แล้ว) ล่าสุด จีนยังได้ประกาศจะยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกชนิดที่ไม่ย่อยสลายตามธรรมชาติ (non-degradable bags) ในเมืองใหญ่หลายแห่งภายในสิ้นปี 2563 นี้ และจากนั้นจะขยายผลการใช้มาตรการดังกล่าวให้ครอบคลุมทั้งประเทศภายในปี 2565

จีนร่วมแบนถุงพลาสติก เลิกใช้ทั่วประเทศในปี 65

นอกจากนั้น ภายในสิ้นปีนี้ จีนยังห้ามร้านอาหารทั่วประเทศ นำ หลอดดูดน้ำ ที่ทำจากพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (single-use straws) มาให้บริการแก่ลูกค้า

 

ผู้ผลิตขยะพลาสติกรายใหญที่สุดในโลก

จีนซึ่งมีจำนวนประชากรกว่า 1,400 ล้านคน ต้องต่อสู้กับปัญหาขยะมาเนิ่นนานหลายปี โดยสื่อต่างประเทศรายงานว่า บ่อขยะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจีนมีขนาดเทียบเท่าสนามฟุตบอลประมาณ 100 สนามมาเรียงๆต่อกัน และแม้จะใหญ่มหึมาขนาดนั้น แต่บ่อขยะดังกล่าวก็มีปริมาณขยะถมเต็มพื้นที่แล้วก่อนเวลาที่วางเป้าหมายไว้ถึง 25 ปี  สถิติชี้ว่า เฉพาะในปี 2560 เพียงปีเดียว จีนมีปริมาณขยะจากชุนเมืองทั่วประเทศราว 215 ล้านตัน

จีนร่วมแบนถุงพลาสติก เลิกใช้ทั่วประเทศในปี 65

ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ชี้ว่าย้อนกลับไปเมื่อ10 ปีที่แล้ว หรือในปี 2553 จีนมีปริมาณขยะพลาสติกราว 60 ล้านตัน ขณะที่สหรัฐอเมริกามีประมาณ 38 ล้านตัน

 

แผนการที่ คณะกรรมาธิการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ หรือ NDRC ของจีน ประกาศเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา เป็นแผนการที่จะนำมาใช้ในระยะ 5 ปีนับจากนี้  กรณีของการห้ามใช้ถุงพลาสติกที่ไม่ย่อยสลายตามธรรมชาติและเป็นแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งที่จะครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2565 นั้นจะเน้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและศูนย์การค้าต่างๆก่อน โดยให้ข้อยกเว้นแก่ร้านค้าในตลาดสด ที่ยังจะสามารถใช้ถุงพลาสติกไปได้กระทั่งปี 2568 ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นก็ต้องเลิกใช้ด้วยเช่นกัน

 

ในส่วนของผู้ผลิตถุงพลาสติก จีนยังประกาศแผนจะห้ามการผลิตและจำหน่ายถุงพลาสติกเนื้อบางหรือที่มีความหนาไม่ถึง 0.025 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ภายในปี 2568 ร้านอาหารยังต้องลดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้งลงในอัตรา 30% ขณะที่อุตสาหกรรมโรงแรมของจีนก็ถูกห้ามแจกฟรีผลิตภัณฑ์ที่บรรจุมาในขวดหรือหีบห่อพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งแก่ผู้ที่มาเข้าพัก

 

อาหารดิลิเวอรีบูม ขยะพลาสติกก็พุ่งตามด้วย

นอกจากนี้ NDRC ยังตั้งเป้าหมายลดการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งในวงการอี-คอมเมิร์ซที่ฟูเฟื่องอย่างมาก โดยเฉพาะในวงการส่งอาหารบริการด่วน หรือ express delivery และอาหารแบบซื้อแล้วนำออกไปทานที่อื่นนอกร้าน (takeaway food) ขณะเดียวกันก็จะส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาวัสดุอื่นๆขึ้นมาใช้ทดแทนและเป็นทางเลือกใหม่ รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายให้ปี 2568 เป็นปีที่จีนจะมีระบบครบวงจรที่นำมาใช้กำกับดูแลการผลิต การจำหน่าย การใช้ การรีไซเคิล และการทิ้งผลิตภัณฑ์พลาสติก

จีนร่วมแบนถุงพลาสติก เลิกใช้ทั่วประเทศในปี 65

จีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกและการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกของจีนก็พุ่งสูงขึ้นมากตามกระแสความนิยมช้อปปิ้งออนไลน์และการสั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือให้มาส่งตามบ้าน ทำให้มีการใช้ถุงพลาสติก ห่อพลาสติก ภาชนะพลาสติก หรือแม้แต่ช้อนส้อมพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งเพิ่มขึ้นอย่างมากในชีวิตประจำวัน แม้แต่ในเขตชนบท กระแสวัฒนธรรมดังกล่าวก็ซอกซอนเข้าไปถึงแล้ว กล่าวกันว่า ยักษ์ใหญ่ด้านบริการช้อปปิ้งออนไลน์ของจีนอย่าง อาลีบาบา กรุ๊ป เป็นผู้ใช้พลาสติกรายใหญ่ โดยในแต่ละวัน บริษัทจะมีการส่งพัสดุที่มีหีบห่อเป็นพลาสติกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านห่อ(หรือกล่อง)  

 

รัฐบาลจีนมีเป้าหมายว่าจะสามารถลดการใช้พลาสติกในธุรกิจบริการส่งอาหารนอกสถานที่ภายในเขตเมืองใหญ่ลงอย่างน้อย 30% ภายในปี 2568 และก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น คือในปี 2565 จีนจะห้ามการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติในธุรกิจบริการส่งอาหารในเขตเมืองใหญ่อย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้เป็นพื้นที่นำล่อง จากนั้นจะขยายขอบเขตของมาตรการครอบคลุมทั่วทั้งประเทศภายในปี 2568

จีนร่วมแบนถุงพลาสติก เลิกใช้ทั่วประเทศในปี 65

นี่คือแนวโน้มระดับโลก

ในอดีต จีนเคยมีความพยายามดำเนินการในลักษณะนี้มาแล้ว เช่นปี 2551 รัฐบาลจีนห้ามร้านค้าปลีกแจกฟรีถุงพลาสติกให้แก่ลูกค้า และห้ามการผลิตถุงพลาสติกที่มีความบางเฉียบ ต่อมาในปี 2560 จีนซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นประเทศผู้นำเข้าขยะพลาสติกรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก ได้ประกาศห้ามไม่ให้มีการนำเข้าขยะพลาสติกจากต่างประเทศอีกต่อไป

 

ความพยายามของจีนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกระแสที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก และจีนก็ไม่ใช่ประเทศเดียวที่ดำเนินมาตรการในลักษณะนี้ เพราะต้นปี 2563 พร้อมกับการเปิดศักราชใหม่ ประเทศไทยก็เริ่มโครงการงดแจกฟรีถุงพลาสติกให้แก่ลูกค้าห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และร้านสะดวกซื้อหลายแห่งทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายจะขยายผลดำเนินการให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศภายในปีหน้า (2564) ขณะที่เมืองหลวงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ก็ห้ามการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และตลาดพื้นบ้าน โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมิ.ย.ที่จะถึงนี้ เช่นเดียวกับที่เกาะบาหลี สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอินโดนีเซีย ซึ่งมีมาตรการห้ามใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งที่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมทั้งบนบกและในทะเลด้วยแล้วเช่นกัน