กรุงปราก : เมืองแห่งสกุลเงินดิจิทัล

20 ม.ค. 2563 | 05:24 น.

 

 

บทความพิเศษโดย:เอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก

 

เมื่อปี ค.ศ. 2018 กรุงปรากได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes ให้อยู่ในอันดับที่ 1 จาก 10 เมืองในโลกที่เอื้อต่อการใช้จ่ายเงินสกุลดิจิทัล (cryptocurrency) และในปี ค.ศ. 2019 ได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์ coinmap ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการเก็บข้อมูลสถานที่ที่มีการรองรับการทำธุรกรรมด้านการเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลให้อยู่ในอันดับที่ 2 รองจากกรุงลูบลิยานา สโลวีเนีย และตามมาด้วย Buenos Aires, Caracas, Bogota, Moscow, New York, Amhem, San Francisco และ Madrid ซึ่งพัฒนาการในด้าน e-Commerceและเศรษฐกิจดิจิทัลของสาธารณรัฐเช็กเป็นสิ่งที่น่าจับตามองและศึกษาอย่างใกล้ชิดในฐานะประเทศเศรษฐกิจขนาดกลางในภูมิภาคยุโรปที่สามารถปรับตัวเองจากระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมไปสู่ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมเต็มรูปแบบและมีมาตรการและระบบการรักษาความปลอดภัยในด้านการเงินและการคลังอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามมาตรฐานสากลภายในระยะเวลาไม่ถึง 30 ปี

 

ปัจจุบันมีร้านค้าและสถานบริการต่าง ๆ ที่เปิดรับการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านเงินสกุลดิจิทัลในสกุลบิทคอยน์ (bitcoin) ประมาณ 15,558 แห่งทั่วโลก (เพิ่มขึ้น 18% จากปี ค.ศ. 2018) ภูมิภาคยุโรปนับเป็นพื้นที่ที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยบิทคอยน์ของประชาชนมากที่สุดในโลก กรุงลูบลิยานามีร้านค้าและสถานบริการถึง 314 แห่งที่เปิดรับบิทคอยน์ ในขณะที่กรุงปรากมี 170 แห่ง โดยร้านค้าและสถานบริการที่เปิดรับบิทคอยน์ประกอบด้วย สถานบันเทิง ร้านอาหาร โรงแรม โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งตู้ ATM ที่เปิดให้ผู้ถอนเงินสามารถถอนเงินสดจากบัญชีเงินดิจิทัล

กรุงปราก : เมืองแห่งสกุลเงินดิจิทัล

กรุงปรากยังเป็นที่ตั้งขององค์กร Paralelni Polis (Paralel Polis) ซึ่งเป็นองค์กรที่สนับสนุนแนวคิดด้านสังคมวิทยา-รัฐศาสตร์ซึ่งสร้างขึ้นโดยนักคิดด้านรัฐศาสตร์ชาวเช็ก คือนาย Vaclav Benda เมื่อปี ค.ศ. 1978 ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างกรอบแนวคิดเพื่อสร้างสังคมและวัฒนธรรมทางเลือกเพื่อให้หลุดพ้นจากระบอบเผด็จการคอมมิวนิสต์ โดยให้ความสำคัญกับสิทธิและเสรีภาพของพลเมืองในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา องค์กร Paralelni Polis ก่อตั้งโดยนาย Pavol Luptak มีวัตถุประสงค์ที่จะให้องค์กรดังกล่าวเป็นทางเลือกในการทำกิจกรรมของสังคมแห่งเสรีภาพ ภายในอาคารสำนักงงานของ Paralelni Polis ประกอบด้วย Bitcoin Coffee cafe, co-working space, 3D Printing workshop และที่ตั้งของสถาบัน “Institute of Cryptology” หรือ Institute of Cryptoanarchy ซึ่งนาย Luptak ตั้งเป้าที่จะสร้าง Paralelni Polis ให้เป็นศูนย์ในการสร้างสังคมคู่ขนานหรือสังคมทางเลือกบนพื้นฐานของสกุลเงินดิจิทัลและระบบเศรษฐกิจคู่ขนานที่ปราศจากการควบคุม การแทรกแซงและไม่อยู่ภายใต้ระบบการจัดเก็บภาษีที่รัฐเป็นผู้กำหนดขึ้น เนื่องจากการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลผ่านระบบ blockchain มีความปลอดภัยและยังเป็นการกระจายอำนาจทางการเงินไปสู่ประชาชน รวมทั้งช่วยลดภาระด้านภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ประชาชนต้องจ่ายให้กับรัฐ ซึ่งนาย Luptak ระบุว่า แม้กรุงปรากจะมีประชากรเพียง 1.3 ล้านคน แต่นับว่าเป็นเมืองที่มีการขยายตัวของร้านค้าและสถานบริการที่เปิดรับสกุลเงิน บิทคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร ดังเห็นได้จากการมี startup ด้าน blockchain จำนวนมากและการเพิ่มจำนวนเครื่อง ATM ของบริษัท General Bytes ซึ่งเป็นผู้ให้บริการตู้ ATM bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเปิดให้บริการและตั้งสำนักงานที่กรุงปราก

 

ระหว่างวันที่ 4 – 6 ตุลาคม 2562 องค์กร Paralelni Polis ได้จัดการประชุมประจำปี “Hackers Congress” ครั้งที่ 6 ณ กรุงปราก ภายใต้ Theme “Opt out of the system” ซึ่งได้รับความสนใจจากบรรดา hackers ศิลปิน นักเคลื่อนไหวและผู้สนับสนุนการใช้เงินสกุลดิจิทัลเข้าร่วมงานหลายร้อยคน ประเด็นที่มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางคือ การนำเทคโนโลยีคริปโตมาใช้เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว เสรีภาพ และการพัฒนาสังคมคู่ขนานหรือสังคมทางเลือกและการผลักดันให้สกุลเงินดิจิทัลเป็นเครื่องมือที่จะนำพาไปสู่สังคมที่มีเสรีภาพทางการเงินและไม่ถูกแทรกแซงและควบคุมโดยรัฐในที่สุด

 

กิจกรรมขององค์กร Paralelni Polis แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของกระแสการเปิดกว้างทางการเงินและ

ความสนใจของประชาชนชาวเช็กในการปรับตัวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล แม้กิจกรรมหรือความเห็นขององค์กรฯ จะเป็นไปในทิศทางที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายด้านการเงินและการคลังของรัฐบาลเช็กที่มุ่งเน้นการสร้างระบบการจัดเก็บภาษีที่เข้มงวด แต่การที่รัฐบาลยังคงยอมให้องค์กร Paralelni Polis ดำเนินกิจกรรมอย่างเปิดเผยและปรากฏรายงานข่าวกิจกรรมต่าง ๆ ในสื่อทั่วไปของทางการเช็ก แสดงให้เห็นถึงความเปิดกว้างและความต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศเห็นว่า เช็กเป็นประเทศเสรีและให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน รวมทั้งการพัฒนา ecosystem การสร้างความรู้ความเข้าใจ และการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้มีความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรม 2019-2030 ที่รัฐบาลเช็กให้ความสำคัญและได้กล่าวย้ำในทุกเวทีการประชุมระหว่างประเทศอยู่เสมอ

 

แม้ในปัจจุบันการดำเนินกิจกรรมของ Paralelni Polis ยังคงจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มคนที่สนับสนุนแนวคิดด้านเสรีนิยมทางการเงินและสนับสนุนให้สกุลเงินดิจิทัลกลายเป็นสกุลเงินหลักของโลก และภายในเช็กยังมีกลุ่มผู้สนับสนุนแนวคิดดังกล่าวจำนวนไม่มากนัก แต่หากกระแสหรือแนวคิดดังกล่าวได้รับความสนใจและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และสามารถขยายการดำเนินการไปยังประเทศใกล้เคียง (เมื่อปี ค.ศ. 2018 องค์กรฯ ได้เปิดสาขาที่สโลวะเกีย และมีแผนที่จะขยายไปเปิดสาขาที่ Barcelona ในอนาคตอันใกล้) และเปิดสาขาในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกตามที่นาย Luptak ตั้งเป้าหมายไว้ ก็อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิขของเช็กและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคยุโรปกลางและภูมิภาคอื่นในโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กรุงปราก : เมืองแห่งสกุลเงินดิจิทัล

เมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทย ปัจจุบันกระแสความนิยมในเรื่องสกุลเงินดิจิทัลและการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบ blockchain กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนและนักเก็งกำไรทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าของไทยที่ต้องการจะออกจากการลงทุนเดิมในรูปแบบเดิม โดยพยายามหาช่องทางและโอกาสในการเข้าสู่พื้นที่การลงทุนใหม่ๆ และการสร้างรายได้จากการประกอบธุรกิจการเงินแบบออนไลน์ การชำระค่าสินค้าและบริการผ่านสกุลเงินดิจิทัล รวมทั้งการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลในลักษณะเดียวกับการเก็งกำไรในตลาดหุ้นและตลาดทองคำ

จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนและภาคเอกชนไทย อย่างไรก็ดี ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลและสกุลเงินดิจิทัลยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลและสถาบันทางการเงินของไทยต้องจับตาดูและศึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมในด้านการรักษาความปลอดภัยของระบบการเงินและการคลังของประเทศ และในขณะเดียวกันก็เตรียมความพร้อมให้กับประชาชนเพื่อให้รู้เท่าทันและไม่กลายเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้แสวงผลประโยชน์จากระบบเศรษฐกิจและสกุลเงินดิจิทัลอย่างที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน

กรุงปราก : เมืองแห่งสกุลเงินดิจิทัล