เศรษฐกิจจีนโตต่ำสุดในรอบ 3 ทศวรรษ

17 ม.ค. 2563 | 10:07 น.

 

สถิติของทางการจีนที่เปิดเผยล่าสุดพบว่า ในปีที่ผ่านมา อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยทั้งปีของจีนอยู่ที่ระดับ 6.1% เท่านั้นเมื่อเทียบกับปี 2561 นับเป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจในอัตราต่ำที่สุดเท่าที่จีนเคยมีมาในรอบ 29 ปี ปัจจัยหลักมาจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังแผ่วบาง และผลกระทบจากสงครามการค้าที่จีนมีกับสหรัฐฯมาเป็นระยะเวลา18 เดือน  

 

แม้ว่ารัฐบาลจีนจะพยายามนำมาตรการต่างๆมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น จีนก็ต้องเผชิญกับสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา เพิ่งจะมีสัญญาณที่ดีขึ้นในระยะไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ เมื่อมีข่าวว่าทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงการค้าฉบับแรก หรือข้อตกลงการค้าเฟส 1 ซึ่งเท่ากับเป็นการสงบศึกการค้าเป็นการชั่วคราว หรืออย่างน้อยก็ไม่ทำให้ความขัดแย้งที่มีอยู่เพิ่มระดับรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก สัญญาณเชิงบวกดังกล่าวสะท้อนให้เห็นได้จากตัวเลขกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจเอกชน

เศรษฐกิจจีนโตต่ำสุดในรอบ 3 ทศวรรษ

 

ลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอัตราต่ำเป็นประวัติการณ์ ทำให้มีความคาดหมายว่า รัฐบาลจีนน่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่มาอีกในเร็วๆนี้ โดยปัจจุบัน จีนได้ใช้นโยบายผสมผสาน ทั้งมาตรการสกัดกั้นการชะลอตัว มาตรการลดภาษี และเปิดโอกาสให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถออกพันธบัตรจำนวนมากมาจำหน่ายเพื่อระดมทุนสนับสนุนโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังมีมาตรการสนับสนุนธนาคารพาณิชย์ให้ปล่อยกู้มากขึ้น โดยเฉพาะการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก ทำให้ยอดการปล่อยกู้ใหม่ (ในสกุลเงินหยวน) พุ่งขึ้นมากในปี 2562 ทำสถิติสูงสุดที่ 2.44 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 10.8 ล้านล้านบาท

เศรษฐกิจจีนโตต่ำสุดในรอบ 3 ทศวรรษ

แม้ในขณะนี้เศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ แต่ตัวเลขการลงทุนในภาพรวมก็ยังคงขยายตัวในอัตราที่ลดลงจนอยู่ในระดับที่ต่ำมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้นับว่าแตกต่างอย่างมากกับภาพในอดีตของจีนที่เคยเติบโตในอัตราตัวเลข 2 หลักมาโดยตลอดในช่วง 10 ปีแรกของศตวรรษที่ 21 อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปีที่ผ่านมา (2562) จะอยู่ที่อัตราเพียง 6.1% ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดเท่าที่จีนเคยประสบมาในรอบ 30 ปี แต่อัตราดังกล่าวก็ยังสูงกว่าอีกหลายๆประเทศมหาอำนาจของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) คาดหมายว่า ในปีนี้ เศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัวที่อัตราราวๆ 2.2% เท่านั้น

ไม่ต้องเป็นห่วง ถึงโตน้อย แต่ก็ยังเข้าเป้า

 

ถึงโตน้อย แต่ก็ยังเข้าเป้า

นักวิเคราะห์ระบุว่า สำหรับหลายๆประเทศ ถ้าหากต้องเผชิญกับภาวะที่เศรษฐกิจมีการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ ก็คงต้องมีการหวาดวิตกกันอย่างมาก แต่เหตุการณ์ไม่เป็นเช่นนั้นในกรณีของจีน เพราะรัฐบาลจีนได้ตั้งเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอัตราที่ชะลอลงอยู่แล้ว และอัตรา 6.1% ก็อยู่ในขอบเขตที่คาดหวังไว้ ทั้งนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างร้อนแรงมากเกินไปในอดีต ก็เป็นสิ่งที่จีนต้องแลกกับสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็วและยอดกู้ยืมขนาดมหึมาที่กลายเป็นหนี้เสีย ดังนั้น การติดเบรคให้เศรษฐกิจเติบโตในอัตราที่ช้าลงแต่มั่นคงมากขึ้นจึงเป็นเป้าหมายใหม่ของรัฐบาลจีน แต่ทั้งนี้ก็ต้องพยายามใช้มาตรการที่ไม่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงมากจนเกินไปหรือรวดเร็วเกินไป