สงครามการค้าพ่นพิษ เอดีบีลดคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียยกแผง

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย รวมทั้งไทย จะขยายตัวต่ำลงทั้งในปีนี้และปีหน้า (2563) เป็นผลสืบเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอินเดีย

รายงานการวิเคราะห์ แนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย (Asian Development Outlook 2019 Update) ของเอดีบีฉบับล่าสุด ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ)ของเอเชียลงจากการคาดการณ์ครั้งล่าสุดในเดือนกันยายนจาก 5.4% ในปี 2562 และ 5.5% ในปี 2563 ลงมาอยู่ที่ระดับ 5.2% ทั้งในปี 2562 และ 2563

ส่วนเศรษฐกิจไทย เอดีบีได้ปรับประมาณการณ์การขยายตัวของจีดีพี ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ 3.0% เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เหลือ 2.6% ในปีนี้ (2562) และจาก 3.2% เป็น 3% ในปี 2563 เนื่องจากการการเติบโตที่ชะลอตัวลงของการบริโภคทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งการลงทุน ขณะที่ ‘เอเชียตะวันออกเฉียงใต้’ หรือ ‘อาเซียน’ ในภาพรวมนั้น เอดีบีปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพี ลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 4.4% ในปีนี้ ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่แผ่วลงทั้งในสิงคโปร์และไทย อย่างไรก็ตาม สำหรับปีหน้า เอดีบียังคงตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียนไว้ที่อัตรา 4.7%

แนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนและเกาหลีใต้ที่กำลังเผชิญข้อพิพาททางการค้าและการลงทุนภายในประเทศที่แผ่วกำลังลง ประกอบกับความวุ่นวายทางการเมืองในฮ่องกง ทำให้เอดีบีปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศใน ‘เอเชียตะวันออก’ ในปี 2562 และ 2563 เหลือเพียง 5.4% และ 5.2% ตามลำดับ โดยเอดีบีปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจจีนลง จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 6.2% ในปีนี้ และ 6.0% ในปีหน้า ก็ปรับลดลงมาเหลือเพียง 6.1% และ 5.8% ตามลำดับ

หันมาดู ‘เอเชียใต้’ เอดีบีปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้า ลงสู่ระดับ 5.1% และ 6.1% ตามลำดับ เจาะลงมาที่อินเดีย คาดว่าจีดีพีของอินเดียจะขยายตัวในอัตราลดลงที่ 5.1% ในปีนี้ซึ่งเป็นผลมาจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในภาคการเงินและภาวะสินเชื่อตึงตัว นอกจากนี้ การอุปโภคบริโภคในประเทศก็ได้รับผลกระทบจากตลาดแรงงานที่ขยายตัวน้อยลงประกอบกับผลผลิตการเกษตรไม่ดีส่งผลต่อรายได้ของประชากรในชนบท  อย่างไรก็ตาม เอดีบีเชื่อว่ามาตรการสนับสนุนเชิงนโยบายจากภาครัฐจะช่วยให้จีดีพีของอินเดียกลับมาเติบโตที่อัตรา 6.5% ได้ในปีหน้า (2563)

ทั้งนี้ เอดีบีคาดว่า แนวโน้มเงินเฟ้อของภูมิภาคเอเชียในภาพรวมจะขยับสูงขึ้น เป็น 2.8% ในปี 2562 และ 3.1% ในปี 2563 ท่ามกลางบริบทที่โรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกรยังคงแพร่ระบาดและส่งผลให้ราคาเนื้อสุกรปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การเผชิญหน้าทางการค้าที่ยังไม่พบทางออกและการทำข้อตกลงทางการค้าที่ล่าช้าออกไป ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดในการทำรายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจของเอดีบี

นายยะสุยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบี เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะยังคงแข็งแกร่ง แต่ความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงมีอยู่ ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคและยังคงเป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจระยะยาวของเอเชีย นอกจากนี้ กิจกรรมการลงทุนก็มีการขยายตัวแผ่วลงในหลายประเทศ สะท้อนความไม่มั่นใจของผู้ประกอบการธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น