สุดทน หัวเว่ยยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ ค้านถูกขึ้นบัญชีดำ

05 ธ.ค. 2562 | 11:04 น.

 

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์  บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมของจีน เปิดเผยวันนี้ (5 ธ.ค.) ว่า  บริษัทตัดสินใจยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในกรณีที่สหรัฐฯขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย เป็นหนึ่งในบริษัทต่างชาติที่ถูกจัดอยู่ใน Entity List ซึ่งเป็นบัญชีรายชื่อของบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมที่รัฐบาลสหรัฐฯสั่งห้ามไม่ให้กระทำการซื้อขายสินค้ากับบริษัทสหรัฐฯ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง

สุดทน หัวเว่ยยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ ค้านถูกขึ้นบัญชีดำ

นายสง หลิวปิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกฎหมายของหัวเว่ย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่สำนักงานใหญ่ของหัวเว่ยในเมืองเสิ่นเจิ้น ว่า ไม่มีหลักฐานใดๆที่บ่งชี้ว่า หัวเว่ยเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ “การที่สหรัฐขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย นับเป็นการตัดสินใจที่มีแรงจูงใจทางการเมือง” ผู้บริหารฝ่ายกฎหมายของหัวเว่ยฯกล่าว
 

 

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของหัวเว่ยในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมาแสดงความกังวลใจเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีของหัวเว่ย โดยสหรัฐฯพุ่งเป้าไปที่สินค้าต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหัวเว่ย ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้

 

นับตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯได้ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยพร้อมด้วยบริษัทโทรคมนาคมของจีนอีกจำนวนหนึ่ง ในรายชื่อ Entity List ซึ่งเป็นบัญชีรายชื่อของบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ซื้อขายสินค้ากับบริษัทสหรัฐฯ หากไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล โดยรัฐบาลสหรัฐฯแสดงความกังวลว่า อุปกรณ์ของหัวเว่ยอาจช่วยให้รัฐบาลจีนสามารถสอดแนมข้อมูลจากสหรัฐฯได้

สุดทน หัวเว่ยยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ ค้านถูกขึ้นบัญชีดำ

ต่อมาในเดือนพ.ย. คณะกรรมการด้านการสื่อสารของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FCC) ยังออกมาระบุว่า หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ และบริษัทแซดทีอี คอร์ป.( ZTE Corp) ผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมอีกรายหนึ่งของจีนเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงของประเทศ และห้ามไม่ให้บริษัทสื่อสารของสหรัฐฯที่เป็นลูกค้าของหัวเว่ยและแซดทีอี ใช้เงินกองทุนของรัฐบาลมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ฯ เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือบริการของสองบริษัทดังกล่าว โดยมติของ FCC มีเป้าหมายเพื่อห้ามบริษัทอเมริกันไม่ให้ซื้ออุปกรณ์ของหัวเว่ยและแซดทีอี ทำให้หัวเว่ยฯ ได้รับผลกระทบและบริษัทได้ตัดสินใจยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯในที่สุด