แบล๊คฟรายเดย์ทมิฬ มือมีดก่อเหตุป่วนยุโรป
วันศุกร์หลังเทศกาลขอบคุณพระเจ้าปีนี้ (29 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันแห่งการจับจ่ายใช้สอย “แบล๊คฟรายเดย์” (Black Friday) ในประเทศซีกโลกตะวันตก ได้เกิดเหตุร้ายลักษณะคล้ายๆกันขึ้นในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยสื่อต่างประเทศรายงานว่า ในขณะที่ประชาชนกำลังจับจ่ายใช้สอยอยู่ในห้างสรรพสินค้าฮัดสันส์ เบย์ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านช้อปปิ้ง Grote Marktstraat ที่คักคักไปด้วยผู้คนในกรุงเฮก ได้เกิดเหตุแทงกันซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน ตำรวจเนเธอร์แลนด์ยังไม่เปิดเผยถึงสาเหตุและรายละเอียดของเหตุการณ์ เพียงแต่ระบุว่า ไม่มีมูลเหตุที่ชี้ว่าเรื่องนี้เป็นเหตุก่อการร้าย และยังไม่มีรายงานการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ ภาพที่เผยแพร่ทางสื่อต่างๆ รวมทั้งคลิปในโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นภาพฝูงชนที่แตกตื่นวิ่งออกจากจุดเกิดเหตุ รวมทั้งภาพการเข้าปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเฮลิคอปเตอร์
ส่วนเหตุการณ์ในกรุงลอนดอนเกิดขึ้นวานนี้เช่นกัน (29 พ.ย.) เชิงสะพานลอนดอน (London Bridge) ซึ่งเป็นสะพานเก่าแก่ สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของมหานครลอนดอน ชายที่ผูกระเบิดปลอมติดตัวได้ก่อเหตุไล่แทงผู้คนที่ผ่านไปมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 3 คน ก่อนที่คนร้ายจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม ตำรวจอังกฤษระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการก่อการร้าย และระบุชื่อผู้ก่อเหตุคือนายอุสมัน ข่าน วัย 28 ปี อาศัยอยู่ในเขตสแตฟฟอร์ดเชียร์ ซึ่งห่างจากกรุงลอนดอนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 150 ไมล์ เขาเป็นอดีตนักโทษคดีก่อการร้ายที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวโดยมีทัณฑ์บนเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ตำรวจกำลังตรวจค้นที่พักของเขาและไม่ได้ติดตามตัวบุคคลอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้
ข่านมีประวัติอาชญากรรม เคยถูกจับเมื่อปี 2555 ข้อหาก่อการร้าย และเพิ่งถูกปล่อยตัวมาเมื่อเดือนธ.ค. 2561 เขาก่อเหตุเมื่อวันศุกร์ (29 พ.ย.) เมื่อช่วงบ่ายราว 13.58 น. เวลาท้องถิ่น ตำรวจได้รับแจ้งและรุดมายังที่เกิดเหตุ มีพลเมืองดีพยายามจะช่วยจับตัวเขาไว้ แต่หลังจากรถตำรวจมาถึงได้ราว 5 นาทีมีการเผชิญหน้า และพยานในที่เกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ผู้คนพากันวิ่งลงจากสะพาน นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีมหานครลอนดอน กล่าวยกย่องพลเมืองดีที่เป็นผู้กล้าและวิ่งเข้าสู่อันตรายแม้เห็นว่าคนร้ายมีระเบิดติดตัวและขณะนั้นยังไม่มีใครรู้ว่านั่นคือระเบิดปลอมว่า พวกเขาคือวีรบุรุษ “ขอขอบคุณพวกเขาในนามของชาวลอนดอนทุกคน”
ด้านนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ขอให้ประชาชนเฝ้าระมัดระวัง เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้มีความคล้ายและทำให้นึกย้อนถึงเหตุก่อการร้ายที่เคยเกิดขึ้นในสถานที่เดียวกันคือ สะพานลอนดอน ในปี 2560 ซึ่งครั้งนั้น ผู้ก่อเหตุ 3 คนใช้รถตู้วิ่งขึ้นสะพานลอนดอนและพุ่งชนผู้คน จากนั้นยังลงจากรถออกมาวิ่งไล่แทงผู้ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 8 คน