บีเอ็มดับเบิลยูเผยแผนผลิตมินิ อีวี ‘เมด อิน ไชน่า’

29 พ.ย. 2562 | 11:06 น.

 

บีเอ็มดับเบิลยู ผู้ผลิตรถยนต์หรูสัญชาติเยอรมัน เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า บริษัทมีแผนจะผลิตรถยนต์ ‘มินิ คูเปอร์’ (Mini Cooper) รุ่นที่เป็นระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ( fully EV) ที่โรงงานใหม่ในประเทศจีน โดยเป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างบีเอ็มดับเบิลยูและบริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์จีน

  บีเอ็มดับเบิลยูเผยแผนผลิตมินิ อีวี ‘เมด อิน ไชน่า’

โรงงานใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองจางเจียกัง มณฑลเจียงซู ทางชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของจีน บริษัทมีแผนการจ้างงานพนักงาน 3,000 คน และจะประกอบรถยนต์มินิที่โรงงานแห่งนี้ด้วยกำลังการผลิตราว 160,000 คัน/ปี รวมกับรถยนต์แบรนด์อื่นๆ ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ด้วย การก่อสร้างโรงงานจะเริ่มในปี 2563 และแล้วเสร็จในปี 2565    

 

ขบวนรถมินิไฟฟ้าจากโรงงานในอังกฤษ

ภายใต้โครงการร่วมทุนครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะลงทุนร่วมกันคิดเป็นมูลค่ารวม 650 ล้านยูโร หรือประมาณ 715 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยราว 21,450 ล้านบาท  

 

แถลงการณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูระบุว่า ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นอีกก้าวที่สำคัญของรถยนต์แบรนด์ ‘มินิ’ที่อนาคตมุ่งไปสู่ทิศทางของยานยนต์ไฟฟ้า  ทั้งนี้ นอกจากโรงงานที่ประเทศจีนแล้ว บริษัทยังมีโรงงานที่เมืองอ๊อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษที่กำลังจะเริ่มการผลิตรถมินิไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ มินิ อี (Mini E) ในเดือนนี้และล็อตแรกจะออกสู่ตลาดในต้นปีหน้า

BMW i3

 

 

สำหรับภาพใหญ่ของธุรกิจบีเอ็มดับเบิลยูในระดับโลก บริษัทตั้งเป้าผลิตรถยนต์อีวีและรถไฮบริดออกสู่ตลาดจำนวนมากกว่า 1 ล้านคันภายในสิ้นปี 2021 (พ.ศ. 2564)  ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่น i3 เป็นรถไฟฟ้ารุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ยอดจำหน่ายในปีนี้พุ่งขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา