แจ๊คหม่ามาแล้ว เสนอรัฐประกาศวัน 11.11 ปีหน้าเป็นวันหยุดครึ่งวัน
เทศกาลแห่งการช้อปปิ้งออนไลน์ 11.11 หรือ ‘วันคนโสด’ (Singles’ Day) ที่จัดโดยอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซของจีน เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ผ่านพ้นไปแล้วด้วยยอดขายที่ทุบสถิติเดิมที่ทำไว้เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ดูเหมือนความสำเร็จดังกล่าวจะยังเป็นยอดที่ ‘ต่ำกว่าความคาดหมาย’ อย่างน้อยก็ในสายตาของ นายแจ๊ค หม่า ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตประธานบริหารของอาลีบาบา ที่เพิ่งวางมือจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
การแสดงบนเวทีและการถ่ายทอดสดเทศกาลช้อปปิ้งวันคนโสดปีนี้ไม่ปรากฏภาพนายแจ๊ค หม่าเหมือนที่เคยเป็นมา แต่ถึงจะไม่ได้มาร่วมกิจกรรมในวันงาน เขาผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเทศกาลช้อปปิ้งวันคนโสดมานานนับ 10 ปี ก็ยังออกมาแสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำเกี่ยวกับงานวัน 11.11 ในภายหลังว่า ยอดขายรวม 268,400 ล้านหยวน หรือกว่า 38,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ แม้ทำสถิติใหม่นิวไฮ แต่ก็ยังต่ำกว่าความคาดหมาย ซึ่งตัวเขามองว่าเกิดจาก 2 เหตุปัจจัยหลักๆ หนึ่งคือ สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว และสองคือ เทศกาลช็อปปิ้งวันคนโสดปีนี้บังเอิญมาตรงกับวันจันทร์ซึ่งเป็นวันทำงานวันแรกของสัปดาห์สำหรับคนส่วนใหญ่
นายแจ๊ค หม่า กล่าวบนเวทีการประชุมผู้ประกอบการโลกครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียงเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ ยอดขายรวมในปีนี้สูงเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
“นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคิดว่ายอดขายปีนี้จะโตเพียง 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุเพราะเศรษฐกิจของจีนกำลังชะลอตัวลงเช่นเดียวกับอุปสงค์ในประเทศหรือการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่แผ่วกำลังลงเช่นกัน แต่เอาเข้าจริง ยอดขายรวม 24 ชั่วโมงของเทศกาลช้อปปิ้ง 11.11 กลับทำยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 25.7%” แจ๊ค หม่ากล่าว แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ต้องยอมรับว่า สำหรับเขาแล้ว ยอดดังกล่าวยังต่ำกว่าที่หวังไว้
“มีหลายเหตุผลที่ทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามคาด หนึ่งในนั้นคือ อากาศร้อนเกินไป โดยปกติสินค้าเสื้อผ้าจะขายได้ดีกว่านี้ในช่วงเวลาที่อากาศเย็น และอีกเหตุผลคือเพราะการจัดงานมันตรงกับวันจันทร์” อดีตประธานของอาลีบาบายังกล่าวด้วยว่า เขาหวังว่ารัฐบาลจะพิจารณาในเรื่องนี้ คือการประกาศให้วันที่ 11 พ.ย. หรือ 11.11 ในปีหน้าและปีต่อๆไป เป็นวันหยุดครึ่งวันเพื่อที่ผู้คนจะได้มีเวลาเข้าไปช็อปปิ้งออนไลน์กัน
โฆษกของอาลีบาบาไม่ได้ออกมาตอบคำถามของสื่อว่าคิดอย่างไรเกี่ยวกับข้อเสนอแนะดังกล่าวของนายแจ๊ค หม่า แต่ที่แน่ๆคือในเวลานี้บริษัทกำลังเตรียมตัวจะจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งคาดว่าจะระดมทุนในช่วงแรกได้ถึง 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 3.9 แสนล้านบาท