อินโดนีเซียเล็งย้ายเมืองหลวงไปเกาะบอร์เนียว

16 ส.ค. 2562 | 10:03 น.

นายโจโค วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียยื่นเสนอแผนย้ายเมืองหลวงไปยังเกาะบอร์เนียวต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 16 ส.ค.2562 โดยเขาระบุว่าการย้ายเมืองหลวงจากเมืองจาการ์ตาบนเกาะชวาที่กำลังเผชิญปัญหาการจรจาจรติดขัดและมลภาวะทางอากาศ ไปยังเกาะบอร์เนียวนั้น แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของอินโดนีเซีย ความยุติธรรมและเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ และสะท้อนวิสัยทัศน์ที่มองไกลไปข้างหน้าของประเทศที่จะยั่งยืนยาวนานไปตลอดกาล

โจโค วิโดโด

ทั้งนี้ เกาะบอร์เนียว หรือที่คนท้องถิ่นรู้จักกันในนามเกาะ กาลิมันตัน อยู่ห่างจากกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงในปัจจุบันไปประมาณ 1,400 กิโลเมตร เกาะบอร์เนียวเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรถ่านหินและเป็นถิ่นกำเนิดของลิงอุรังอุตัง การโยกย้ายเมืองหลวงและศูนย์ราชการต่างๆมาตั้งที่เกาะบอร์เนียว จะเป็นการสร้างเมืองใหม่ที่กล่าวได้ว่าเริ่มทุกอย่างจากศูนย์ เพื่อช่วยกระจายรายได้ ความเจริญ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ออกจากเกาะชวาซึ่งเป็นเกาะที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดของประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังจะช่วยคลี่คลายปัญหาการจรจาจรติดขัดและมลภาวะทางอากาศที่เข้าขั้นรุนแรงในกรุงจาการ์ตาอีกด้วย  ผู้นำอินโดนีเซียยังไม่ได้ประกาศชี้ชัดลงไปว่าเมืองหลวงแห่งใหม่จะตั้งอยู่ที่เมืองอะไร แต่นายอิสรัน นัวร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบูกิต โซเอฮาร์โต (Bukit Soeharto)ซึ่งอยู่ในกาลิมันตันตะวันออก เปิดเผยว่า นี่คือจังหวัดที่อยู่ในรายชื่อของไม่กี่จังหวัดที่ประธานาธิบดีวิโดโด ชื่นชอบและอยากให้เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงแห่งใหม่

อินโดนีเซียเล็งย้ายเมืองหลวงไปเกาะบอร์เนียว

ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด เป็นผู้นำของอินโดนีเซียที่แสดงความกระตือรือร้นที่จะย้ายเมืองหลวงออกจากกรุงจาการ์ตามากที่สุดเมื่อเทียบกับผู้นำคนอื่นๆ เนื่องจากมีการดำริเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานหลายทศวรรษแล้ว โดยหลังจากพื้นที่ที่เรียกว่า “เกรทเตอร์ จาการ์ตา” ที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 30 ล้านคนประสบปัญหาการจราจรระดับวิกฤติ มีจำนวนรถใหม่เพิ่มเข้าสู่ท้องถนนปีละหลายหมื่นคัน อีกทั้งคุณภาพอากาศที่เต็มไปด้วยไอเสียรถยนต์และควันพิษเริ่มถึงระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชน แผนย้ายเมืองหลวงก็มีการหยิบยกมาหารืออย่างจริงจัง  สถิติของทางการอินโดนีเซียชี้ว่า ปัญหาการจราจรสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจให้กับกรุงจาการ์ตาเองคิดเป็นมูลค่าปีละประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นความสูญเสียระดับชาติเนื่องจากเมืองหลวงจาการ์ตาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ มีการสร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วนเกือบๆ 1 ใน 5 ของจีดีพีของประเทศ

การจราจรที่แน่นขนัดในกรุงจาการ์ตา

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ด้วยจำนวนประชากรเฉลี่ยกว่า 15,000 คนต่อพื้นที่ทุกๆ 1 ตารางกิโลเมตรในกรุงจาการ์ตา ซึ่งความหนาแน่นดังกล่าวมากกว่าในสิงคโปร์ถึง 2 เท่า ทำให้การผุดโครงการก่อสร้างใหม่ๆในเมืองหลวงดังกล่าวโดยไม่ให้มีการโยกย้ายผู้อยู่อาศัยเดิมจำนวนนับพันๆครัวเรือนออกไปนับเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง นอกจากนี้ อีกปัญหาของกรุงจาการ์ตาคือแผ่นดินทรุดต่ำ โดยสถิติชี้ว่า พื้นที่ 2 ใน 5 ของกรุงจาการ์ตาเวลานี้อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลและบางพื้นที่ก็กำลังทรุดตัวลงเรื่อยๆในอัตรา 20 เซนติเมตรต่อปี  

ปัญหามลภาวะทางอากาศ

 

ทั้งนี้ การย้ายเมืองหลวงของอินโดนีเซียไปยังเกาะบอร์เนียว หรือกาลิมันตัน จะต้องใช้งบลงทุน 466 ล้านล้านรูเปียโดยประมาณ หรือสูงถึง 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในระยะเวลา 10 ปี ซึ่งรวมถึงการพัฒนาพื้นที่ 40,000 เฮคตาร์สำหรับประชากร 1.5 ล้านคน แต่ต้นทุนค่าใช้จ่ายอาจจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 323 ล้านล้านรูเปีย ถ้าย้ายเฉพาะส่วนราชการบางส่วนออกมาโดยใช้พื้นที่ 30,000 เฮคตาร์ เป็นที่คาดหมายว่าการโยกย้ายและการก่อสร้างเมืองหลวงใหม่เฟสแรกจะเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2564 และอาจจะเริ่มย้ายศูนย์ราชการหรือหน่วยงานของรัฐมาสู่เมืองใหม่ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป งบลงทุนจะมาจากงบของรัฐบาลและบางส่วนจะเป็นการลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน