เวียดคุมสินเชื่อแบงก์ ปริมาณเงินและเงินกู้ขยายได้ไม่เกิน 18%

03 มี.ค. 2559 | 13:00 น.
ธนาคารชาติเวียดนามออกคำสั่งให้สถาบันการเงินในประเทศ ช่วยรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและคุมเงินเฟ้อด้วยการบริหารการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงภายใต้นโยบายการควบคุมปริมาณเงินและการขยายสินเชื่อ

หนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์รายงานว่า นายเหวียน วัน บิ่ง (Nguyen Van Binh) ผู้ว่าการธนาคารชาติของเวียดนาม ได้ออกคำสั่งให้สถาบันการเงินต่าง ๆ ซึ่งรวมทั้งสถาบันการเงินในประเทศและสาขาธนาคารต่างชาติช่วยรัฐในการควบคุมเงินเฟ้อและสร้างความมั่นคงพร้อมทั้งสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2559 ไปในเวลาเดียวกัน

คำสั่งของผู้ว่าการแบงก์ชาติแจ้งว่าธนาคารกลางตั้งเป้าการขยายปริมาณเงินอยู่ที่ 16 % - 18 % ของปริมาณเงินรวมและการขยายสินเชื่อ 18 % ของสินเชื่อคงค้างของทั้งระบบ โดยระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวอาจจะมีการปรับตามสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไป

ธนาคารชาติเวียดนามยังได้เน้นย้ำให้สถาบันการเงินต่าง ๆ ช่วยให้วิสาหกิจต่าง ๆ สหกรณ์และประชาชน ขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น รวมทั้งให้ช่วยผู้กู้เงินให้สามารถบริหารการผลิตและดำเนินธุรกรรมทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

คำสั่งของแบงก์ชาติยังระบุด้วยว่าแบงก์ชาติจะเร่งปรับโครงสร้างสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อและจัดการสถาบันการเงินที่อ่อนแออย่างเข้มข้นเพื่อปรับปรุงคุณภาพการปล่อยเงินกู้ของทั้งระบบให้มีคุณภาพ โดยจะรักษาอัตราหนี้เสียไม่ให้เกิน 3% ของระบบ

เวียดนามนิวส์ระบุว่าคำสั่งผู้ว่าการแบงก์ชาติเวียดนาม สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติปี 2559 ของรัฐบาลที่กำหนดเป้าอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับไม่เกิน 5% และการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อยู่ที่ 6.7% ใกล้เคียงกับจีดีพีในปี 2558 ที่ขยายตัวที่ 6.68%

ดร.เหวียน ซวน แทง (Dr. Nguyen Xuan Thanh) ผู้อำนวยการโครงการฟูลไบรท์อีโคโนมิกส์ทีชชิ่งโปรแกรมที่นครโฮจิมินห์ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ต๋วย แจ๋ (Toui Tre) ในเวียดนาม กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนที่คาดว่าจะขยายตัวลดลงในปี 2559 เป็น 6.8 - 6.3% จาก 6.9% ในปี 2558 จะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามมีแนวโน้มแซงทุกประเทศในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก

ดร. แทง คาดว่าจีดีพีของเวียดนามปีนี้มีโอกาสขยายตัว 6.7 - 8% ขณะที่เศรษฐกิจจีนอาจขยายตัวแค่ 6.4% ซึ่งจะดึงเศรษฐกิจอีกหลายประเทศในเอเชียลดตามไปด้วยยกเว้นเวียดนาม และถ้าเป็นเช่นนั้น เศรษฐกิจเวียดนามก็จะขยายตัวสูงกว่าจีนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2529

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,136 วันที่ 3 - 5 มีนาคม พ.ศ. 2559