ทีพีพีช่วยเวียดนามส่งออกอาหารทะเลเพิ่มขึ้น

20 ก.พ. 2559 | 10:00 น.
หนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์รายงานว่า การเข้าร่วมข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (ทีพีพี) ทำให้การส่งออกสินค้าอาหารทะเลเวียดนามมีอนาคตสดใส สามารถส่งไปขายสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและประเทศสมาชิกอื่นได้เพิ่มขึ้น

นายโง หวั่น อิช (Ngo Van Ich) ประธานสมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารทะเลเวียดนามกล่าวว่าในปีที่แล้ว ผู้ส่งออกอาหารทะเลเจอปัญหาหลายด้านทำให้มูลค่าส่งออกลดลง 15 % เมื่อเทียบกับปี 2557 โดยในปีที่แล้วทำเงินให้ประเทศได้ 6,700 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 241,200 ล้านบาท) แต่ในปีนี้มีแนวโน้มที่ดีเนื่องจากสัญญาการค้าเสรีเอฟทีเอกับยุโรปจะมีผลใช้บังคับ และมีการร่วมลงนามในข้อตกลงทีพีพี ทำให้มีแนวโน้มส่งออกได้มากขึ้น

เวียดนามนิวส์ระบุว่าขณะนี้ เวียดนามส่งผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าและกุ้งไปขายตลาดสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกข้อตกลงทีพีพี มีมูลค่าประเทศ 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 36,000 ล้านบาท) อยู่แล้ว

นายเจื่อง ดินห์ ฮอ (Truong Dinh Hoe) เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารทะเลเวียดนามให้สัมภาษณ์เวียดนามนิวส์ ว่าการส่งออกมีแนวโน้มที่ดีเนื่องจากผู้ส่งออกอาหารทะเล สามารถผลิตสินค้าได้มาตรฐานตามที่ผู้นำเข้ากำหนด อาทิเช่นการส่งออกไปประเทศสหรัฐอเมริกา สินค้าต้องได้มาตรฐานการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ BAP และมาตรฐานอื่น ๆ เข้มงวด

“เมื่อมีการลงนามในข้อตกลงทีพีพี เมื่อใด ผู้ส่งออกที่ได้มาตรฐานอยู่แล้วจะได้ประโยชน์จากอัตราภาษีที่เหลือศูนย์และมีแรงจูงใจให้ลงทุนทางด้านเพาะเลี้ยงและแปรรูปอาหารทะเลเพิ่มขึ้น”

นายเหวียน ฟวก บู ฮวี (Nguyen Phuoc Buu Huy) รองกรรมการผู้อำนวยบริษัท คาโดวิเม็ก ทู เอ็กซ์ปอร์ต โพรเซสซิ่ง แอนด์ ฟิชเชอรี่ฯ กล่าวว่าบริษัทของเขาได้ลงทุนในสายพานการผลิตที่ได้มาตรฐาน BAP และยังได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจาก กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา และองค์การอาหารและยา มาสำรวจทั้งบ่อเลี้ยง การขยายพันธุ์สัตว์น้ำ อาหารสัตว์และขบวนการแปรรูป ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าบริษัทของเขาได้มาตรฐานตามที่ผู้นำเข้าในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและตลาดอื่น ๆ ในโลกต้องการ

นายฮวี กล่าวว่าผู้ส่งออกของเวียดนามต้องพยายามขยายตลาด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะโดนปิดกั้นจากเรื่องเทคนิคและข้อกำหนดทางด้านอนามัย โดยเมื่อข้อตกลงทีพีพี มีผลใช้บังคับแล้ว ผู้ส่งออกสินค้าอาหารทะเลเวียดนามจะมีความเสมอภาคกับผู้นำเข้า เนื่องจากสัญญาทีพีพีมีผลใช้บังคับกับประสมาชิกทั้งหมดทั้งผู้ส่งออกและนำเข้า

ทางด้านการช่วยเหลือจากรัฐ มีรายงานว่ากระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนาม ประกาศที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ส่งออกอาหารทะเลเพื่อให้ผู้ผลิตอาหารทะเลสามารถปรับตัวเข้ากับโอกาสทางธุรกิจที่เปิดขึ้นภายใต้สัญญาเอฟทีเอกับยุโรปและทีพีพีกับสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตในประเทศเพื่อให้สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าด้วยในเวลาเดียวกัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,132 วันที่ 18 - 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559