อีซีบีรับแนวโน้มเงินเฟ้อตํ่า เล็งออกมาตรการเพิ่มมี.ค.

27 ม.ค. 2559 | 09:30 น.
ธนาคารกลางยุโรปชี้แนวโน้มเงินเฟ้ออ่อนแอลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังราคาน้ำมันดิบปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งสัญญาณเตรียมทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมเดือนมีนาคม

นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายของอีซีบีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (21 มกราคม) ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อีซีบีนำมาใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 และมีการประกาศเพิ่มเติมรอบล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น ได้ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับยูโรโซนในการรับมือกับปัจจัยลบของเศรษฐกิจโลกที่เข้ามากระทบในช่วงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี นายดรากียอมรับว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงในช่วงเวลานี้บ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อในปี 2559 น่าจะต่ำกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก่อนอย่างมาก โดยนักเศรษฐศาสตร์ของอีซีบีคาดการณ์ไว้ว่าเงินเฟ้อจะปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 0.2% ในเดือนธันวาคม 2558 เป็นอัตราเฉลี่ย 1% ในปีนี้ ก่อนจะปรับเพิ่มขึ้นอีกในปี 2560 แต่ราคาน้ำมันที่ลดลงไป 40% จากช่วงที่อีซีบีจัดทำตัวเลขคาดการณ์ จึงมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีราคาผู้บริโภคจะเริ่มลดลงอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

"เราจะทบทวนและมีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาจุดยืนนโยบายทางการเงินของเราใหม่อีกครั้งในการประชุมครั้งหน้าในเดือนมีนาคม" นายดรากีกล่าว

นายดรากีกล่าวในทำนองนี้เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ก่อนที่จะประกาศขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมครั้งถัดมาเมื่อเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของอีซีบีอาจจะตัดสินใจไม่มีมาตรการใดๆ เพิ่มเติมออกมาถ้าตลาดการเงินฟื้นตัวและราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น

นักเศรษฐศาสตร์จากอาร์บีเอส กล่าวว่า แต่เดิมคาดหมายการขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของอีซีบีไว้ในเดือนมิถุนายน แต่จากคำกล่าวของนายดรากี ทำให้ในเวลานี้คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จะออกมาในเดือนมีนาคม

บาร์เคลย์ส คาดการณ์ว่าอีอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนจะเริ่มลดลงอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ และจะลดลงอย่างต่อเนื่องสู่ระดับที่ต่ำกว่าเมื่อปีที่ผ่านมาไปจนถึงเดือนกรกฎาคม โดยคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อตลอดทั้งปีนี้จะอยู่ในระดับเพียงแค่ 0.1% ขณะที่อาร์บีเอสคาดการณ์เงินเฟ้อติดลบ 0.1%

นายดรากีกล่าวว่า การตัดสินใจขยายเวลาการซื้อพันธบัตรออกไปอีก 6 เดือนและปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนที่ประกาศออกมาเมื่อเดือนธันวาคมมีความเหมาะสมเมื่อประเมินจากสถานการณ์ในขณะนั้น แต่ความผันผวนของตลาดการเงินทั่วโลกและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความไม่ชัดเจนของแนวโน้มเศรษฐกิจจีนและอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน ได้เพิ่มปัจจัยเสี่ยงด้านลบต่อเศรษฐกิจยูโรโซน

ทั้งนี้ ในการประชุมเดือนมีนาคม อีซีบีสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนลงอีก ตลอดจนปรับนโยบายคิวอี หรือการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ด้วยการขยายขนาดการซื้อพันธบัตรหรือขยายเวลาออกไป ซึ่งนายดรากียืนยันว่าอีซีบีมีเครื่องมือเพียงพอที่จะนำมาใช้กระตุ้นเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่วางไว้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,125 วันที่ 24 - 27 มกราคม พ.ศ. 2559