ปั๊มน้ำมันยุโรปแปลงโฉมรับอีวี

10 ธ.ค. 2560 | 08:55 น.
การเปลี่ยนแปลงที่เรากำลังจะได้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ คือการถาโถมเข้ามาของยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และผลิตภัณฑ์รวมทั้งบริการที่เกี่ยวข้อง นั่นหมายถึงโฉมหน้าของสถานีบริการนํ้ามัน หรือ “ปั๊มนํ้ามัน” ที่กำลังจะต้องเปิดพื้นที่ให้มีจุดบริการสำหรับยานยนต์ที่ “ซด” ไฟฟ้าแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้นเรื่อยๆ ปรากฏการณ์เช่นนี้กำลังเกิดขึ้นอย่างน่าจับตาในภูมิภาคยุโรป

รอยัล ดัทช์ เชลล์ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของยุโรป เป็นรายล่าสุดที่ประกาศจับมือกับกลุ่มพันธมิตรในแวดวงยานยนต์ภายใต้ชื่อ ไอโอนิตี้ (Ionity) ซึ่งประกอบด้วยบีเอ็มดับเบิ้ลยู เดมเลอร์ ฟอร์ด โฟล์คสวาเกน (รวมมากับออดี้ที่อยู่ในเครือเดียวกัน) และปอร์เช่ โดยทางกลุ่มได้รวมตัวกันตั้งแต่ปีที่ผ่านมาเพื่อพัฒนาเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าแบบประจุเร็วให้กับรถอีวี ที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆในทวีปยุโรป ขณะที่เชลล์เพิ่งเข้าร่วมเป็นพันธมิตรรายสำคัญเมื่อเดือนที่แล้ว โดยทางเชลล์จะปรับโฉมและเปิดพื้นที่ภายในปั๊มนํ้ามันเชลล์สาขาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปจำนวน 80 สาขา เป็นปั๊มนำร่องให้มีสถานีชาร์จไฟฟ้าแบบเร็วซึ่งใช้เวลาชาร์จไฟเต็มระหว่าง 5-10 นาทีเพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้รถอีวี สถานีปรับปรุงใหม่เหล่านี้จะเป็นสาขาที่ตั้งอยู่ริมทางด่วนสายสำคัญๆของยุโรป สามารถให้บริการชาร์จไฟแบบเร็วด่วนด้วยกำลังไฟ 350 กิโลวัตต์

นอกเหนือจากเชลล์แล้ว ก่อนหน้านี้ทางไอโอนิตี้ยังได้จับมือทำสัญญากับพันธมิตรรายอื่นๆ เพื่อจัดตั้งเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้ารถอีวีลักษณะเดียวกันนี้ อาทิ โอเอ็มวี (OMV) บริษัทนํ้ามันสัญชาติออสเตรีย แท้งค์ (Tank) บริษัทผู้ให้บริการจุดพักรถ และเซอร์เคิล เค (Circle K) ผู้ประกอบการเชนร้านสะดวกซื้อ เป้าหมายก็เพื่อขยายจำนวนสถานีชาร์จไฟแบบด่วนสำหรับรถอีวีให้ได้ครอบคลุม 50% ของจำนวนสถานีบริการนํ้ามันทั้งหมดที่มีอยู่ภายในเวลาก่อนสิ้นทศวรรษนี้

tp10-3321-1b ความร่วมมือในลักษณะดังกล่าวจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของยุโรปมีการขยายตัวมากขึ้น เพราะการมีเครือข่ายสถานีชาร์จไฟกระจายอยู่ทั่วทั้งภูมิภาคจะทำให้ผู้ขับขี่รถอีวีมีความมั่นใจเมื่อต้องเดินทางในระยะทางไกล นอกจากนี้ ยังเป็นทางเลือกให้กับเจ้าของรถอีวีบางรายที่ไม่สะดวกจะชาร์จไฟฟ้าที่บ้าน

นายอิสท์แวน คาพิทานี ผู้บริหารฝ่ายค้าปลีกตลาดต่างประเทศของเชลล์ เปิดเผยว่า มีแนวโน้มว่าความต้องการสถานีชาร์จไฟฟ้ารถอีวีบนเส้นทางหลวงสายสำคัญๆ ของยุโรปจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เชลล์เองต้องการตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่ที่ต้องการชาร์จไฟฟ้าแบบด่วน จึงจับมือกับพันธมิตรให้บริการชาร์จไฟแบบด่วนที่สุดใน 10 ประเทศยุโรป ไม่เพียงเท่านั้น ความร่วมมือและร่วมทุนครั้งนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การเติบโตของเชลล์ ที่กำลังปรับโครงสร้างรายได้ ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลมาพึ่งพารายได้จากพลังงานสะอาดให้มากยิ่งขึ้น

วิทยุพลังงาน ก่อนหน้านี้ เคยมีข่าวออกมาแล้วว่า เชลล์กำลังมีแผนจะเปิดตัว “สถานีบริการพลังงาน” แห่งแรกของบริษัทที่ไม่มีนํ้ามันเบนซินหรือดีเซลให้บริการ แต่จะมีพลังงานทางเลือกอื่นๆให้บริการแทน อาทิ เชื้อเพลิงชีวภาพ แท่นชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถอีวี และจุดเติมไฮโดรเจนสำหรับรถที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน เป็นต้น สถานีบริการพลังงานดังกล่าวจะเปิดตัวเป็นสาขาแรกที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในปีหน้า (2561)

มีตัวเลขประมาณการว่า ความนิยมใช้รถอีวีที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศอังกฤษ น่าจะทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งหากเทียบกับปีนี้ คาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอีก 5 กิกะวัตต์ภายในปี 2568 หรืออีก 8 ปีข้างหน้า แต่นั่นก็อาจจะเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับผู้ใช้รถอีวีเช่นกัน เพราะพวกเขาสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับเครือข่ายไฟฟ้าหลักด้วยเช่นกัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,321 วันที่ 10 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว