ตรวจแถว 5 มังกร กุมอำนาจ! ‘จีน’
หากเป็นโลกตะวันตกที่มีประชาธิปไตยเปิดกว้าง เราจะทราบทันทีว่าใครครองอำนาจ? แต่ในชาติคอมมิวนิสต์อย่างจีน...แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฟันธงว่า ใครที่กุมอำนาจอย่างแท้จริง?
จีนเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ ปกครองด้วยระบบพรรคเดียว หมายความว่า ใครอยู่ตำแหน่งสูงสุด ก็น่าจะมีอำนาจมากที่สุด แต่อำนาจไม่ได้อยู่ในมือนักการเมืองเท่านั้น นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ก็มีบทบาทขับเคลื่อนจีนเช่นกัน
สำนักข่าว CNN ได้สอบถามไปยังผู้เชี่ยวชาญ 10 ท่าน คิดว่า 5 คนใดที่ทรงอำนาจที่สุดในจีน คำตอบนั้นค่อนข้างหลากหลาย แต่ประมวลออกมาได้ 5 คนที่ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และสื่อมวลชน เชื่อว่า เป็นคนกำหนดทิศทางของจีน
เริ่มจากอันดับ 5 ‘หลี่ เค่อเฉียง’ นายกรัฐมนตรีจีน
ซึ่งตามระบบแล้ว ควรมีอำนาจเป็นสองรองแค่ประธานาธิบดี หลังได้รับการแต่งตั้งในปี 2012 แต่อิทธิพลของเขานั้นไม่แน่ไม่นอน ทั้งที่ต้องรับมือกับประเด็นเศรษฐกิจ สังคม การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของประเทศขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนี้ เหตุที่หลี่ เค่อ เฉียง รั้งอันดับ 5 นักวิชาการที่บอกกับ CNN ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะค่อนข้างเก็บตัว แทนที่จะเป็นคนริเริ่ม วางกรอบ เขียนนโยบาย แต่นายกรัฐมนตรีจีน เหมือนเป็นแค่คนดูแลรัฐบาลมากกว่า
อันดับ 4 ‘หม่า ฮั่วเถิง’
หากใครเคยไปจีน จะต้องมีแอพพลิเคชันหนึ่งอย่างเสียไม่ได้ เพราะคนจีนทุกคนใช้กัน นั่นก็คือวีแชต ที่ใช้กันแทนที่เฟชบุ๊คและทวิตเตอร์ ที่ใช้งานไม่ได้อย่างถูกต้องในจีน และคนที่กุมบังเหียนวีแชต ก็คือ หม่าฮั่วเถิง มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 3 ของจีน ตามข้อมูลของฟอร์บส์
หม่า ฮั่วเถิง ชื่อเล่น โพนี หม่า ก่อตั้งบริษัทเทนเซนต์ เจ้าของวีแชท เมื่อปี 1998 / 2 ทศวรรษต่อมา เขากลายเป็นประธานบริษัทที่มูลค่าพุ่งสูงเหมือนจรวด วีแชท ตอนนี้ เป็นแอพพลิเคชันส่งข้อความที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลกถึง 1 พันล้านคน มีความสัมพันธ์และวางตัวที่ดีกับรัฐบาล แต่นักวิจัยของออกฟอร์ดมองว่า ความท้าทายในอนาคตคือ นักธุรกิจอย่างหม่า ฮั่วเถิง จะสมดุลย์ความมั่งคั่งกับความสัมพันธ์กับรัฐบาลได้ดีแค่ไหน
อันดับ 3 ‘หวัง ฉีซาน’
หวัง ฉีซาน อดีตนายกเทศมนตรีกรุงปักกิ่ง และประธานคณะกรรมาธิการจัดโอลิมปิกปี 2008 ปัจจุบัน เป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหารพรรคคอมมิวนิสต์ และเลขาธิการคณะกรรมการตรวจสอบวินัยส่วนกลาง เสมือนผู้ลงดาบกวาดล้างนักการเมืองคอรัปชัน ทั้งระดับสูงและระดับล่าง ตามประกาศิตที่ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง เคยให้ไว้
หวัง ฉีซาน ไม่เพียงแต่เป็นผู้ทรงอิทธิพล แต่ยังเป็นที่หวั่นเกรงภายในหมู่นักการเมือง ด้วยฉายานักล่าเสือ โค่นล้มอำนาจของนักการเมืองมากอิทธิพลมาแล้วหลายคน เช่นนายโจว หย่งกัง เจ้าของฉายา ซาร์ แห่งความมั่นคงจีน รวมถึง นายซุน เจิ้ง ไฉ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขาฉงชิง ที่เป็นสมาชิกโปลิตบูโรเหมือนกัน และเป็นตัวเก็งสืบทอดอำนาจประธานาธิบดีอีกด้วย ดังนั้น จึงไม่แปลกที่แวดวงวิชาการและสื่อมวลชนจีน จะขนานนามหวัง ฉีซาน ว่าผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดอันดับ 3 ของจีน
อันดับ 2 ‘แจ๊ค หม่า’
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดรองลงมารั้งอันดับ 2 เป็นนักธุรกิจที่เรารู้จักกันดี ในนามว่า ‘แจ๊ค หม่า’ อดีตครูสอนภาษาอังกฤษ ที่ชอบเต้นเพลงไมเคิล แจ็คสัน ปัจจุบัน คือประธานบริหารและผู้ก่อตั้งอาลีบาบา เว็บไซต์พาณิชย์ออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ไม่นับรวมหุ้นส่วนในอีกหลายบริษัท
อาณาจักรธุรกิจของแจ็ค หม่า รวมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เขาเป็นชายผู้ร่ำรวยที่สุดในจีน เคยพบปะส่วนตัวกับบารัก โอบามา และโดนัลด์ ทรัมป์มาแล้ว และเป็นชายผู้สร้างวันชอปปิงแห่งชาติจีน 11 พฤศจิกายน หรือวันคนโสด ได้ด้วยตัวคนเดียว
ทั้งเวทีจีนและเวทีโลก แจ็ค หม่า กลายเป็นสัญลักษณ์ความสำเร็จของจีนไปแล้ว แต่เหมือนคำพังเพยว่า ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว มีอำนาจมากก็ไม่ได้หมายความว่าจับต้องไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้ หวัง เจียหลิน มหาเศรษฐีอีกคน ต้องล้มลุกคลุกคลานหลังถูกรัฐบาลเพ่งเล็ง ก็ต้องดูว่า แจ็ค หม่า จะใช้ชีวิตตามคำพูดของเขาได้ไหมว่า วันนี้มันโหดร้าย พรุ่งนี้จะเลวร้ายยิ่งกว่า แต่มะรืนจะสวยงาม แต่คนส่วนใหญ่จะมองไม่เห็นมะรืนนี้
อันดับ 1 ‘สี จิ้น ผิง’
สุดท้าย ผู้ที่ทรงอำนาจที่สุดในจีน หนีไม่พ้นประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ไม่เพียงอิทธิพลทางการเมือง แต่ต้องเรียกว่าในทุกภาคส่วนทุกมิติของจีนเลย ตามมุมมองของศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย แล้วยังเป็นผู้นำจีนที่ทรงอิทธิพลที่สุดนับแต่อดีตประธานาธิบดีเติ้ง เสี่ยวผิงอีกด้วย
เส้นทางแห่งอำนาจของสี จิ้น ผิง ยังไม่หยุดแค่นี้ เพราะการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ครั้งนี้ จะยิ่งเสริมอำนาจของประนาธิบดีจีนให้มากขึ้นอีก จึงไม่แปลกที่ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 10 คน จะโหวตให้สี จิ้น ผิง เป็นอันดับ 1