มาครอง-เลอแปนชิงชัยรอบ 2 ชูโลกาภิวัตน์ปะทะแนวคิดชาตินิยม

27 เม.ย. 2560 | 13:00 น.
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก ที่ได้นายเอ็มมานูเอล มาครง และนางมาครีน เลอ แปน ผ่านเข้าไปสู่รอบ 2 จะเป็นการปูทางสู่เวทีการแข่งขันชี้ชะตาตัดสินระหว่าง 2 ผู้สมัครที่มีวิสัยทัศน์ในการนำพาเศรษฐกิจฝรั่งเศสที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

จากการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งชัยชนะตกเป็นของนายเอ็มมานูเอล มาครอง วัย 39 ปี ผู้สมัครอิสระ อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจของฝรั่งเศส ด้วยคะแนน 23.75% โดยมีนางมาครีน เลอ แปน ผู้สมัครจากพรรคฝ่ายขวาจัด เนชันแนล ฟรอนต์ ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยคะแนน 21.53% นั้น ทำให้ผู้สมัครทั้งสองรายได้ผ่านเข้าไปสู่การเลือกตั้งชี้ขาดรอบ 2 ในวันที่ 7 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้

ผลการเลือกตั้งที่ได้นายมาครองและนางเลอ แปน เข้าไปชิงชัยในการเลือกตั้งรอบ 2 นับได้ว่าเป็นความพ่ายแพ้อย่างราบคาบของพรรคการเมืองหลัก คือพรรคฝ่ายกลางขวา และฝ่ายกลางซ้าย ที่กุมอำนาจทางการเมืองในฝรั่งเศสมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ขณะเดียวกันก็ลดทอนความกังวลใจของนักลงทุนในตลาด เนื่องจากโอกาสที่ผลการเลือกตั้งจะโน้มเอียงไปทางผู้สมัครที่คัดค้านยุโรปมีลดน้อยลงไป

นายดิเอโก อิสคาโร นักเศรษฐศาสตร์จากไอเอชเอส มาร์คิต ให้ความเห็นว่า "ผลที่ออกมาน่าจะทำให้ราคาพันธบัตรฝรั่งเศสฟื้นตัวขึ้นในระดับหนึ่ง ขณะที่เงินยูโรน่าจะได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม มีหลายสิ่งเกิดขึ้นได้ในช่วง 2 สัปดาห์ และสินทรัพย์ฝรั่งเศสน่าจะเผชิญกับแรงกดดันไปจนกว่าการเลือกตั้งรอบ 2 จะผ่านไป"

ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นจากแฮร์ริสพบว่า นายครองมีโอกาสคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งชี้ขาดด้วยคะแนน 64% ต่อ 36% ส่วนการสำรวจความคิดเห็นโดยอิปซอส/โซปรา สเตอเรีย ก็ให้ผลที่คล้ายคลึงกัน

สำหรับการเลือกตั้งในรอบ 2 ชาวฝรั่งเศสจะต้องเลือกระหว่างผู้สมัคร 2 รายที่มีแนวทางนโยบายทางเศรษฐกิจที่ตรงข้ามกันอย่างคนละขั้ว ในการเลือกตั้งรอบแรก นายมาครองได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่จากเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและเมืองใหญ่ อาทิ ปารีส และบอร์กโดซ์ โดยนโยบายสนับสนุนธุรกิจของเขาตรงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่ดังกล่าว

นายมาครองฉีกตัวเองออกจากพรรคการเมืองเมื่อปีก่อน และตั้งกลุ่มการเมืองอิสระที่ชื่อว่า En Marche! ที่แปลว่าเดินหน้า โดยนำนโยบายทางทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวามาผสมผสานกัน นโยบายของนายมาครองสนับสนุนการรวมตัวของยุโรป นวัตกรรม และเชื่อว่าโลกาภิวัตน์จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเศรษฐกิจฝรั่งเศส

นายมาครองให้คำมั่นว่าจะทยอยปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงเหลือ 25% จาก 33% ในปัจจุบัน และต้องการลดภาษีที่อยู่อาศัยสำหรับชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ยังให้คำมั่นว่าจะลดค่าใช้จ่ายของรัฐลง 6 หมื่นยูโรต่อปีด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐบาล ปฏิรูปตลาดแรงงาน สนับสนุนข้อตกลงการค้าเสรี และเพิ่มการลงทุนด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม คมนาคม สาธารณสุข และการเกษตร

ในทางกลับกัน ฐานเสียงของนางเลอ แปน อยู่ในพื้นที่ที่มีอัตราว่างงานสูงและรายได้ต่ำ ซึ่งเธอหาเสียงด้วยนโยบายจำกัดการเข้าเมืองของผู้อพยพ ให้ความสำคัญในการจ้างงานและสวัสดิการกับชาวฝรั่งเศสเป็นลำดับแรก สนับสนุนนโยบายกีดกันการค้า ตั้งภาษีเพิ่มเติมสำหรับบริษัทที่จ้างแรงงานต่างชาติและการนำเข้า ต้องการจัดประชามติเพื่อตัดสินว่าจะอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไปหรือไม่ และต้องการถอนตัวจากยูโรโซนกลับไปใช้เงินฟรังก์เพื่อให้สินค้าส่งออกของฝรั่งเศสแข่งขันได้ดีขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,256 วันที่ 27 - 29 เมษายน พ.ศ. 2560