หอการค้าอเมริกันในจีนชี้ ปีนี้บริษัทสหรัฐฯ ในจีนเผชิญกับบรรยากาศที่ท้าทายที่สุดในรอบหลายสิบปี
หอการค้าอเมริกัน (แอมแชม) ในประเทศจีนเปิดเผยในรายงานประจำปี American Business in China White Paper ระบุว่าการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองและเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และจีน ความรู้สึกเป็นปรปักษ์ต่อบริษัทต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้แนวโน้มการทำธุรกิจไม่สดใส แม้จะมีความพยายามกล่าวสนับสนุนการเปิดเสรีเศรษฐกิจและโลกาภิวัตน์เพิ่มมากขึ้น แต่กำแพงการเข้ามาลงทุนยังอยู่ในระดับสูง
“ความรวดเร็วในการปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดตลาดเสรียังเป็นไปได้ช้าและไม่มั่นคง” แอมแชมระบุ และกล่าวว่าในขณะที่รัฐบาล ความโปร่งใสของกฎระเบียบ และการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญามีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่นโยบายที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศและบริษัทชั้นนำของประเทศ ทำให้พื้นที่สำหรับบริษัทต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจมีน้อยลง
รายงานดังกล่าวเป็นคำเตือนล่าสุดจากแอมแชม ซึ่งกล่าวเมื่อเดือนมกราคมว่า มีบริษัทอเมริกันจำนวนมากขึ้นชะลอการลงทุน โดยการสำรวจความคิดเห็นในปี 2559 พบว่ามีสมาชิกแอมแชม 81% กล่าวว่ารู้สึกได้รับการต้อนรับน้อยลงกว่าที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 77% ที่แสดงความรู้สึกดังกล่าวในปี 2558
“เรากำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ในเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ รัฐบาลทรัมป์ยังมองหาจุดยืนของตนเอง ขณะที่จีนจะมีการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในปีนี้เช่นกัน บริษัทข้ามชาติทั้งจากสหรัฐฯ และจีนกำลังจับตามองความเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเพื่อวางแผนของตนเอง” นายวิลเลียม ซาริท ประธานแอมแชมในจีนกล่าว
นายซาริทกล่าวด้วยว่า การเพิ่มความโปร่งใสจะมีส่วนช่วยความพยายามในการปราบปรามคอร์รัปชันของรัฐบาลจีน และทำให้บริษัทเอกชนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นว่าการลงทุนของตนจะได้รับการปกป้องอย่างเป็นธรรมภายใต้กฎหมาย ความมีเสถียรภาพและความชัดเจนจากกฎระเบียบที่ไม่คลุมเครือจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของจีน