เรือสำราญ 'ดรีมครุยส์' เทียบท่าเมืองอาเซียน

29 ม.ค. 2560 | 10:00 น.
หนังสือพิมพ์ซินซิวเดลี่ ในสิงคโปร์ รายงานว่าบริษัทในเครือเกนติ้ง มาเลเซีย เตรียมเปิดเส้นทางเดินเรือของเรือสำราญ ดรีมครุยส์ ล่องทั่วอาเซียน ใช้สิงคโปร์เป็นท่าต้นทาง ผู้โดยสารสามารถแวะเที่ยวมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทยและเวียดนามในแพ็กเกจเดียว

รายงานข่าวระบุว่า บริษัทเกนติ้งดรีมฯ ผู้ประกอบการเรือสำราญดรีมครุยส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มเกนติ้ง ของมาเลเซีย ประกาศว่าจะเริ่ม ให้บริการเรือสำราญเส้นทางอาเซียนช่วงปลายปีนี้ เป็นเส้นทางเรือสำราญที่เน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของอาเซียน

นายแททเชอร์ บราวน์ ประธานบริหารบริษัท ดรีมครุยส์ ให้สัมภาษณ์สื่อในสิงคโปร์ว่า ประเทศสิงคโปร์เหมาะเป็นเมืองท่าของ ดรีมครุยส์ อย่างยิ่งในแง่ของจุดยุทธศาสตร์และภูมิศาสตร์ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเส้นทางเรือสำราญอาเซียน จะช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวของอาเซียนโดยรวม

นายไลโอเนล โ (Lionel Yeo) กรรมการคณะกรรมการท่องเที่ยวสิงคโปร์กล่าวว่าสิงคโปร์ยินดีต้อนรับ การตัดสินใจของ เกนติ้งดรีม ที่จะให้สิงคโปร์เป็นเมืองท่าของเรือดรีมครุยส์ ซึ่งการทำเช่นนั้นจะทำให้เอเชียอาคเนย์ เป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวเรือสำราญแห่งหนึ่งของโลก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศสมาชิกอาเซียน จะร่วมกันพัฒนาธุรกิจเรือสำราญ

ซินซิวเดลี่ ระบุว่าเรือสำราญ ดรีมครุยส์ ต่อขึ้นในประเทศเยอรมนี มีขนาด 1.5 แสนตันรับผู้โดยสารได้ครั้งละ 3,400 คนมีลูกเรือ 2,000 คนเริ่มให้บริการในเดือนพฤศจิกายน ปลายปีที่แล้วในเส้นทางไม่ประจำโดยเทียบท่าเรือกวางเจา ฮ่องกง และซานย่าที่เกาะไหหลำ

สิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิงบนเรือประกอบด้วย สวนน้ำบนเรือซึ่งมีสไลเดอร์ถึง 6 ตัว โรงโบวลิ่ง สนามแข่งรถเสมือนจริง ศูนย์สุขภาพแบบเอเชีย สปาแบบตะวันตกและโรงยิม

บริการเส้นทางเดินเรือสำราญ ดรีมครุยส์ เปิดตัวในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนครั้งที่ 20 ที่สิงคโปร์ โดยนายเอส. อิสวาน รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ กล่าวในที่ประชุมว่า สมาชิกอาเซียนให้สัญญาว่าจะร่วมกันพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวโดยเรือสำราญในอาเซียน เพื่อทำให้มีลูกค้าจากประเทศสมาชิกอาเซียนใช้บริการเรือสำราญให้ได้ 4.5 ล้านคนภายในปี 2578

นายอาเรียฟ ยาห์ยา รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวอินโดนีเซีย กล่าวว่า ทางกระทรวงฯ จะริเริ่มการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานสำหรับการเทียบท่าเรือสำราญที่ท่าเรือของอินโดนีเซีย 5 แห่ง โดยจะมีท่าเทียบเรือครุยส์ขนาดใหญ่ที่ทางใต้ของเกาะบาหลี และจะมีการทำให้การทำงานด้านการตรวจคนเข้าเมืองมีมาตรฐานเดียวกันเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,231
วันที่ 29 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2560