ซีเมนส์ เผยแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานในอาร์เจนตินาเป็นมูลค่า 5 พันล้านยูโร ตอบสนองความพยายามของประธานาธิบดี เมาริซิโอ มากรี ของอาร์เจนตินา ที่ต้องการดึงเงินลงทุนจากต่างชาติเข้าประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายโจ เคเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซีเมนส์ บริษัทวิศวกรรมยักษ์ใหญ่จากเยอรมนี เปิดเผยว่า ซีเมนส์ได้ตกลงที่จะเข้ามาลงทุนและเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม และการบริหารจัดการพลังงานในอาร์เจนตินาในช่วงประมาณ 4-5 ปีข้างหน้า โดยซีเมนส์จะเป็นผู้ซัพพลายพลังงานประมาณ 5 กิกะวัตต์ ซึ่ง 4 กิกะวัตต์จะมาจากโรงงานไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติที่ทันสมัย และอีก 600 เมกะวัตต์มาจากพลังงานทดแทน ตลอดจนลงทุนในระบบควบคุมการเดินรถไฟอัตโนมัติ และทำงานร่วมกับอาคารของทางการในกรุงบูเอโนส ไอเรส เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน
ทั้งนี้ โครงการลงทุนของซีเมนส์จะช่วยสร้างงานในอาร์เจนตินาได้ประมาณ 3,000 ตำแหน่งโดยตรง และอีกราว 4,000 ตำแหน่งโดยอ้อมในระยะเวลา 4-5 ปีข้างหน้า
นายเคเซอร์กล่าวว่า การตัดสินใจเข้ามาลงทุนในอาร์เจนตินา เนื่องจากเชื่อมั่นในนโยบายของนายเมาริซิโอ มากรี ประธานาธิบดีคนใหม่ของอาร์เจนตินา ที่หลังจากได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งและก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปลายปีก่อน นายมากรีได้ให้คำมั่นที่จะเปิดเศรษฐกิจของอาร์เจนตินาให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน
“รัฐบาลอาร์เจนตินามีความตั้งใจที่จะปฏิรูป พวกเขาจริงจังกับสิ่งที่ต้องการทำ มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับประเทศในการฟื้นกลับคืนมาจากที่เคยเป็น และก้าวขึ้นมาเป็นในสิ่งที่สมควรจะเป็น” นายเคเซอร์กล่าว
การขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจของอาร์เจนตินา ซึ่งในเวลานี้เผชิญกับภาวะถดถอยหลังจากเศรษฐกิจหดตัวต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 ไตรมาส อย่างไรก็ดี นายเคเซอร์กล่าวว่าอนาคตของประเทศมีโอกาสสดใส “อาร์เจนตินามีโอกาสอย่างมากที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในลาตินอเมริกา เนื่องจากบราซิลกำลังวุ่นวายกับปัญหาภายในจนไม่ได้หันมามองโอกาสการสร้างความทันสมัยในลักษณะนี้”
นายมากรีได้วางนโยบายที่จะดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ซึ่งการให้คำมั่นว่าจะเข้ามาลงทุนในอาร์เจนตินาของซีเมนส์จะเป็นหลักฐานที่แสดงถึงความพยายามในการปฏิรูปเศรษฐกิจของนายมากรีได้เป็นอย่างดี โดยที่ผ่านมานายมากรีได้ปรับเปลี่ยนนโยบายต่างๆ อาทิ การปล่อยค่าเงินเปโซลอยตัว จัดการแก้ปัญหาทางกฎหมายกับเจ้าหนี้ รวมถึงลดความซับซ้อนของภาษีนำเข้าและส่งออก เป็นต้น และเมื่อเร็วๆ นี้ นายมากรีได้จัดการประชุมสัมมนาครั้งใหญ่ และเชิญผู้นำภาคธุรกิจจากทั่วโลกกว่า 2,000 รายเข้าร่วม พร้อมกับเชิญชวนให้ภาคธุรกิจจากประเทศต่างๆ เข้ามาลงทุนในอาร์เจนตินา
อย่างไรก็ดี การสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักธุรกิจต่างชาติไม่ใช่งานง่ายสำหรับอาร์เจนตินาที่เศรษฐกิจถดถอยมาเป็นเวลาหลายไตรมาส อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 9.3% ขณะที่เงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงถึง 44% นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่อาร์เจนตินายังขาดไป คือกรอบกฎหมายที่จะสร้างบรรยากาศการทำธุรกิจที่ปลอดภัยให้กับนักลงทุน
นักลงทุนจากต่างชาติที่มาเข้าร่วมงานในครั้งนี้ได้แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของอาร์เจนตินา นายฮวน โรเซลล์ ประธานสมาพันธ์องค์กรธุรกิจแห่งสเปน กล่าวว่า เวลานี้อาร์เจนตินาอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งถ้าสามารถก้าวเดินไปได้ในทิศทางที่ถูกต้อง ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จะทำให้อาร์เจนตินามีศักยภาพที่น่าจับตามองอย่างมาก พร้อมกับเชื่อว่าการลงทุนจากบริษัทในสเปนมายังอาร์เจนตินาน่าจะเพิ่มขึ้นได้มากกว่าในปัจจุบัน โดยบริษัทสเปนให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนด้านก่อสร้าง คมนาคม โครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และพลังงานทดแทน
อย่างไรก็ดี แม้จะมีความสนใจจากบริษัทต่างชาติ แต่เม็ดเงินลงทุนที่เข้ามาในประเทศอย่างแท้จริงยังมีอยู่เป็นจำนวนน้อย ข้อมูลจากกระทรวงการคลังอาร์เจนตินาระบุว่า มีการให้คำมั่นว่าจะลงทุนเป็นมูลค่า 3.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน แต่ข้อมูลจากธนาคารกลางแสดงให้เห็นว่าช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีเม็ดเงินเข้ามาเพียง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,195 วันที่ 25 - 28 กันยายน พ.ศ. 2559