ยักษ์เกมกางแผนรุกครึ่งหลัง ชี้‘โปเกมอน โก’ ไม่กระทบยอดผู้เล่น/เล็งเปิด 6 เกมใหม่
การีนา มองตลาดเกมครึ่งปีหลังเติบโต ทั้งจำนวนผู้เล่น-รายได้แต่อาจไม่สูงเหมือนปีที่ผ่านมา พร้อมระบุโปเกมอน โก ไม่กระทบยอดผู้เล่น แถมช่วยปลุกตลาดคึกคัก ขณะที่เอเชียซอฟท์ วางแผนดึง 6 เกมเน้นเจาะตลาดแมส เชื่อดันรายได้โตกว่าครึ่งปีแรก
[caption id="attachment_86391" align="aligncenter" width="335"]
มณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]
นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า แนวโน้มตลาดเกมครึ่งปีหลังนั้นน่าจะมีการเติบโตทั้งในแง่ของรายได้ และฐานผู้เล่น แต่ตัวเลขการเติบโตอาจไม่สูงเหมือนปีที่ผ่านมา ส่วนกรณีการเข้ามาของโปเกมอน โก นั้นมองว่าไม่ส่งผลกระทบกับกลุ่มผู้เล่นเกมของบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากเกมโปเกมอนไม่มีผู้เผยแพร่ หรือ พับบิชเชอร์ ที่ให้บริการในไทย อีกทั้งยังเป็นแนวเกมที่ต่างจากที่บริษัทให้บริการ ทั้งนี้กลับมองว่าโปเกมอน โก จะเข้ามาช่วยสร้างสีสัน และกระตุ้นให้ตลาดเกมโดยรวมคึกคักขึ้น
"ตลาดเกมครึ่งปีแรกของปี 2559 ยังคงการเติบโต แต่ในแง่ของผู้เล่นการเติบโตกลับลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ประกอบกับในครึ่งปีแรกผู้ให้บริการเกมยังมีเกมใหม่ ซึ่งเป็นเกมฟอร์มยักษ์เข้ามาให้บริการ"
นางสาวมณีรัตน์ กล่าวต่อไปอีกว่ากลยุทธ์ของบริษัทในครึ่งปีหลังนั้นจะมีการนำเข้าเกมทั้งบนพีซี และโมบายเข้ามาให้บริการเพิ่มแน่นอน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับนักพัฒนาเกมอยู่ ซึ่งที่ชัดเจนน่าจะมีเกมดังบนโมบายเข้ามาให้บริการ 1 เกม นอกจากนี้ยังมุ่งรักษาฐานผู้เล่นเกมที่มีอยู่ 27 ล้านราย โดยจะมีการปรับปรุงเนื้อหาในเกมที่ให้บริการอยู่ให้มีเนื้อหาตรงใจกับผู้เล่นมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมุ่งผลักดันการแข่งขันเกม หรือ อี-สปอร์ตต่อเนื่อง โดยภายในครึ่งปีหลังจะมีการจัดการแข่งขันอี-สปอร์ต 2-3 งาน โดยจะมุ่งการจัดกิจกรรมการแข่งขันไปยังหัวเมืองใหญ่ เพื่อให้ผู้เล่นในต่างจังหวัดมีปฏิสัมพันธ์กับเกมที่บริษัทให้บริการมากขึ้น
นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทวางแผนกลยุทธ์เปิดให้บริการเกมใหม่ทั้งหมด 6 เกม โดยจะเน้นไปที่เกมโมบายเป็นหลัก เพื่อเป็นการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปในกลุ่มมวลชน (Mass) มากขึ้น และในช่วงต้นไตรมาส 3 ได้เตรียมเปิดเกมมือถือ Disney Catch Catch ซึ่งเป็นการจับมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่างDisney ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากหลังจากที่เปิดให้บริการสามารถขึ้นอันดับ Top Rank อันดับ 2 ในหมวดเกมของระบบ IOS โดยคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีรายได้เติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก
สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของบริษัท (ไม่รวมรายการพิเศษ) มีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 82 ล้านบาท ลดลงจากครึ่งปีแรกของปีก่อน 25.4 ล้านบาทหรือ 24% และผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2559 บริษัท มีรายได้รวม 191.5 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2559 4.3 ล้านบาท
นายปราโมทย์ กล่าวต่อไปว่าในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดเกมใหม่จำนวนทั้งสิ้น 4 เกม ทั้งเกมพีซี และเกมมือถือ ได้แก่ Tales Runner, Destiny of Thrones, Kritika และ Cabal2 สำหรับภาพรวมในครึ่งปีแรกถือว่าประสบความสำเร็จจากการเปิดให้บริการเกมทั้งเกมพีซี และเกมมือถือ โดยเกมใหม่ที่เปิดตัวส่วนใหญ่เปิดในช่วงปลายไตรมาส 2 ส่งผลให้การรับรู้รายได้ของเกมใหม่จะปรากฏชัดเจนในไตรมาส 3 ซึ่งเกมที่เปิดตัวและสร้างความสำเร็จอย่างมากคือเกม Cabal2 ที่ผู้เล่นให้ความสนใจ มียอดดาวน์โหลดและยอดไอดีร่วมทดสอบกว่า 500,000 ไอดี และหลังเปิดให้บริการ OBT ใน 3 สัปดาห์ มียอดสมัครไอดีกว่า 1,000,000 ไอดี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,184 วันที่ 18 - 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_86391" align="aligncenter" width="335"]
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]
นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า แนวโน้มตลาดเกมครึ่งปีหลังนั้นน่าจะมีการเติบโตทั้งในแง่ของรายได้ และฐานผู้เล่น แต่ตัวเลขการเติบโตอาจไม่สูงเหมือนปีที่ผ่านมา ส่วนกรณีการเข้ามาของโปเกมอน โก นั้นมองว่าไม่ส่งผลกระทบกับกลุ่มผู้เล่นเกมของบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากเกมโปเกมอนไม่มีผู้เผยแพร่ หรือ พับบิชเชอร์ ที่ให้บริการในไทย อีกทั้งยังเป็นแนวเกมที่ต่างจากที่บริษัทให้บริการ ทั้งนี้กลับมองว่าโปเกมอน โก จะเข้ามาช่วยสร้างสีสัน และกระตุ้นให้ตลาดเกมโดยรวมคึกคักขึ้น
"ตลาดเกมครึ่งปีแรกของปี 2559 ยังคงการเติบโต แต่ในแง่ของผู้เล่นการเติบโตกลับลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ประกอบกับในครึ่งปีแรกผู้ให้บริการเกมยังมีเกมใหม่ ซึ่งเป็นเกมฟอร์มยักษ์เข้ามาให้บริการ"
นางสาวมณีรัตน์ กล่าวต่อไปอีกว่ากลยุทธ์ของบริษัทในครึ่งปีหลังนั้นจะมีการนำเข้าเกมทั้งบนพีซี และโมบายเข้ามาให้บริการเพิ่มแน่นอน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับนักพัฒนาเกมอยู่ ซึ่งที่ชัดเจนน่าจะมีเกมดังบนโมบายเข้ามาให้บริการ 1 เกม นอกจากนี้ยังมุ่งรักษาฐานผู้เล่นเกมที่มีอยู่ 27 ล้านราย โดยจะมีการปรับปรุงเนื้อหาในเกมที่ให้บริการอยู่ให้มีเนื้อหาตรงใจกับผู้เล่นมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมุ่งผลักดันการแข่งขันเกม หรือ อี-สปอร์ตต่อเนื่อง โดยภายในครึ่งปีหลังจะมีการจัดการแข่งขันอี-สปอร์ต 2-3 งาน โดยจะมุ่งการจัดกิจกรรมการแข่งขันไปยังหัวเมืองใหญ่ เพื่อให้ผู้เล่นในต่างจังหวัดมีปฏิสัมพันธ์กับเกมที่บริษัทให้บริการมากขึ้น
นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทวางแผนกลยุทธ์เปิดให้บริการเกมใหม่ทั้งหมด 6 เกม โดยจะเน้นไปที่เกมโมบายเป็นหลัก เพื่อเป็นการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปในกลุ่มมวลชน (Mass) มากขึ้น และในช่วงต้นไตรมาส 3 ได้เตรียมเปิดเกมมือถือ Disney Catch Catch ซึ่งเป็นการจับมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่างDisney ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากหลังจากที่เปิดให้บริการสามารถขึ้นอันดับ Top Rank อันดับ 2 ในหมวดเกมของระบบ IOS โดยคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีรายได้เติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก
สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของบริษัท (ไม่รวมรายการพิเศษ) มีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 82 ล้านบาท ลดลงจากครึ่งปีแรกของปีก่อน 25.4 ล้านบาทหรือ 24% และผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2559 บริษัท มีรายได้รวม 191.5 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2559 4.3 ล้านบาท
นายปราโมทย์ กล่าวต่อไปว่าในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดเกมใหม่จำนวนทั้งสิ้น 4 เกม ทั้งเกมพีซี และเกมมือถือ ได้แก่ Tales Runner, Destiny of Thrones, Kritika และ Cabal2 สำหรับภาพรวมในครึ่งปีแรกถือว่าประสบความสำเร็จจากการเปิดให้บริการเกมทั้งเกมพีซี และเกมมือถือ โดยเกมใหม่ที่เปิดตัวส่วนใหญ่เปิดในช่วงปลายไตรมาส 2 ส่งผลให้การรับรู้รายได้ของเกมใหม่จะปรากฏชัดเจนในไตรมาส 3 ซึ่งเกมที่เปิดตัวและสร้างความสำเร็จอย่างมากคือเกม Cabal2 ที่ผู้เล่นให้ความสนใจ มียอดดาวน์โหลดและยอดไอดีร่วมทดสอบกว่า 500,000 ไอดี และหลังเปิดให้บริการ OBT ใน 3 สัปดาห์ มียอดสมัครไอดีกว่า 1,000,000 ไอดี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,184 วันที่ 18 - 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559