‘โฟลว์แอคเคาท์’ โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ตั้งเป้า3ปีโกอินเตอร์

19 มิ.ย. 2559 | 08:00 น.
ถ้า ดีแทค หรือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) มีโครงการสตาร์ตอัพภายใต้ชื่อ "ดีแทค แอคเซอเลอเรท" จึงเป็นไปไม่ได้ว่าค่ายมือถือเบอร์ 1 อย่างเอไอเอส หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ก็มีเช่นเดียวกัน โดยที่เปิดโครงการนี้มาแล้วเป็นปีที่ 5 มีกลุ่มสตาร์ตอัพเข้าร่วมโครงการกว่า 2,000 ไอเดียภายใต้ชื่อ"เอไอเอส เดอะ สตาร์ทอัพ"

ล่าสุด "ฐานเศรษฐกิจ" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ กฤษฎา ชุตินธร(กฤษ) ผู้ร่วมก่อตั้ง (co founder) บริษัท โฟลว์แอคเคาท์ จำกัด ผู้พัฒนาโปรแกรมบัญชีออนไลน์ภายใต้ชื่อ "โฟลว์แอคเคาท์" เกี่ยวกับเป้าหมายธุรกิจนับจากนี้ไปจะไปทิศทางใด

จุดเริ่มต้น"โฟลว์แอคเคาท์"

"กฤษ" บอกถึงที่มาในการพัฒนาโปรแกรมดังกล่าวว่าหลังจากเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเอง อะไรๆก็ยากไปหมด ต้องทำทุกอย่างรวมถึงการทำระบบบัญชีทำก็ไม่เป็น หลังจากนั้นเริ่มเรียนรู้ลองผิดลองถูก ตั้งแต่การใช้บิลแบบเขียนที่ซื้อได้ตามห้าง และ ได้มีการใช้โปรแกรมเอ็กเซลรู้สึกว่าเสียเวลา หลังจากนั้นจึงได้ซื้อโปรแกรมบัญชีสำเร็จรูปราคาหลายหมื่นบาท แทนที่จะแก้ไขปัญหาได้ แต่กลับเพิ่มมากกว่าเดิม เพราะโปรแกรมบัญชีส่วนใหญ่ ออกแบบมาให้นักบัญชีใช้ learning curve (คนเราทำงานเยอะจะเกิดการเรียนรู้มากขึ้น) จะสูงมากและใช้งานยากมาก บวกกับซื้อมาก็ใช้เป็นอยู่ไม่กี่อย่าง ไม่คุ้มค่าในการลงทุน

แต่ทว่าเมื่อมองไปที่เมืองนอก เช่น สหรัฐอเมริกา หรือ ออสเตรเลีย จะเห็นว่าทุกๆ ประเทศล้วนแล้วแต่มีระบบ cloud accounting (บริการที่ครอบคลุมถึงการให้ใช้กำลังประมวลผล หน่วยจัดเก็บข้อมูล และระบบออนไลน์ต่างๆจากผู้ให้บริการ เพื่อลดความยุ่งยากในการติดตั้ง ) ที่เราฝันว่าอยากจะใช้ แต่เพราะว่าวิธีการทำงานและระบบภาษีของไทย ไม่เหมือนกับต่างประเทศ จึงไม่สามารถนำระบบดังกล่าวของเมืองนอกมาใช้ได้จริงในบ้านเรา

ปี 57 เริ่มพัฒนา

หลังจากนั้นในปี 2557 ร่วมกับทีมงานเริ่มพัฒนาโปรแกรมดังกล่าวสำหรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี และ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ ""โฟลว์แอคเคาท์" ระบบบัญชีออนไลน์ที่เหมาะกับธุรกิจสำหรับคนที่ใช้งานไม่เป็นที่เป็นระบบแรก และ ก้าวแรก สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ปัจจุบันมีผู้ซื้อโปรแกรมไปแล้วจำนวนหลายพันบริษัทและเป็นระบบออนไลน์สามารถใช้บริการที่ไหนก็ได้จำหน่ายปีละ 990 บาท

จุดเด่นใช้งานง่าย

จุดเด่นของโปรแกรม คือ ใช้งานง่ายและออกแบบมาเพื่อให้เจ้าของกิจการขนาดเล็ก ที่ไม่เก่งบัญชี บวกกับเทคโนโลยีคลาวด์ทำให้เจ้าของกิจการ สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา รองรับกับวิธีการทำงานและไลฟ์สไตล์ ของเจ้าของกิจการยุคใหม่ พร้อมทั้งเร็วๆ นี้เราจะออก mobile app ซึ่งจะช่วยให้ทำงานได้สะดวกมากขึ้น

ผ่าโครงสร้าง

บริษัทได้เริ่มทำธุรกิจมาเป็นระยะเวลา 2 ปีแล้วโดยในปีที่ผ่านมาได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 1 ล้านบาทจาก เอไอเอส เดอะ สตาร์ทอัพ ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนในประเทศสิงคโปร์ และ 500 ตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น นอกจากนี้ เอไอเอส ยังให้การสนับสนุนเกี่ยวกับช่องทางจำหน่ายในแพ็กเกจเอสเอ็มอี ในการออกระบบบิลลิ่งอีกด้วย

เห็นด้วยรัฐสนับสนุน

เขามองว่าการที่ภาครัฐและเอกชนเข้ามาสนับสนุนกลุ่มสตาร์ตอัพถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่หลายฝ่ายเข้ามาสนับสนุน ภาคเอกชนอย่าง เอไอเอส ซึ่งให้การสนับสนุนมาโดยตลอด และในปัจจุบันบริษัทกำลังจะเป็นพันธมิตรกับธนาคารกสิกรไทยในการต่อเชื่อมระบบบัญชีเข้าด้วยกัน

3 ปีโกอินเตอร์

สำหรับเป้าหมายในขณะนี้พยายามพัฒนาสินค้าให้มีความต่อเนื่อง หมายถึงครอบคลุมธุรกิจให้หลากหลายในแต่ละธุรกิจ โดยจะพยายามพัฒนาซอฟต์แวร์ให้มีความละเอียดเพิ่มมากขึ้น ในช่วงนี้จะเน้นตลาดในประเทศไทยเป็นหลัก และ ภายใน 3 ปีอยากขยายไปตลาดต่างประเทศเช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้ขอทำธุรกิจในประเทศไทยให้เกิดความแข็งแรงก่อนบุกตลาดต่างประเทศ

สำหรับการแข่งขันเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากสตาร์ตอัพในประเทศไทยมีน้อยมากบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนมีไม่ถึง 100 บริษัท ทำให้การแข่งขันในขณะนี้ไม่สูงมากนัก ตอนนี้กระแสกำลังมาก แต่ปัญหา คือว่า ระยะยาวคงมีไม่มาก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,167 วันที่ 19 - 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559