แอพฯช้อปปี้ยอดผู้ใช้แตะ2ล้าน ชี้ผู้ใช้‘สมาร์ทโฟน-โซเชียล’โตติดจรวดดันเป้าสิ้นปีเพิ่ม 2 เท่า

21 มิ.ย. 2559 | 06:00 น.
แอพฯ ช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านมือถือ "ช้อปปี้" เผยพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนใช้สมาร์ทโฟน -โซเชียล มากขึ้น เปิดให้บริการ 6 เดือนยอดผู้ใช้ 2 ล้านราย มีสินค้าในระบบ 2 ล้านชิ้น ตั้งเป้าดันยอดปี 59 เติบโตขึ้น 2 เท่าตัว

นายเทเรนซ์ แพง ผู้อำนวยการบริหารประจำภูมิภาค บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นช็อปปิ้งออนไลน์แบบ C2C (ผู้บริโภคต่อผู้บริโภค) เปิดเผยว่าไทยเป็นประเทศที่มียอดการเติบโตสูง และเติบโตรวดเร็วของช็อปปี้ในภูมิภาคนี้ เนื่องจากมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนเป็นจำนวนมาก และมีการพัฒนาด้าน 3จี และ 4จี โดยภายหลังจากเปิดให้บริการ แอพพลิเคชั่น"ช้อปปี้" ช็อปปิ้งออนไลน์แบบ C2C (ผู้บริโภคต่อผู้บริโภค) ผ่านมือถือ เมื่อเดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมาขณะนี้มียอดผู้ใช้ราว 2 ล้านคน และมีสินค้าที่ขายผ่านช้อปปี้ 2 ล้านชิ้น

ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเติบโตของตลาดอี-คอมเมิร์ซไทย และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่นอกจากมีการใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้นแล้ว ยังมีการใช้บริการโซเซียลเน็ตเวิร์กเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นช้อปปี้ให้ตอบสนองกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป โดขขณะนี้มียอดผู้ติดตาม ( Follows) ในอินสตราแกรม 2 ล้านราย และ มียอดการกดไลค์ บนเฟชบุ๊ก ราว 8 แสนราย

นอกจากนี้ยังได้วางแนวทางการพัฒนาแอพพลิเคชั่น "ช้อปปี้" ให้เหมาะกับพฤติกรรมหรือความต้องการของผู้ใช้ส่วนบุคคลมากขึ้น เพื่อให้ร้านค้า สามารถนำเสนอบริการ หรือโปรโมชั่นที่ตรงกับความต้องการผู้ใช้

ขณะเดียวกันยังได้ออกแบบแอพพลิเคชั่นช้อปปี้ เพื่อแก้ปัญหา หรือ อุปสรรค ด้านการชำระเงินในตลาดอีคอมเมิร์ซ ภายใต้บริการ"ช้อปปี้ การันตี" โดยร้านค้า หรือ ผู้ขายจะได้รับเงินต่อเมื่อสินค้าถึงมือผู้ซื้อ และผู้ซื้อสามารถขอคืนเงินได้ในกรณีที่ได้รับสินค้าไม่ตรงตามต้องการ

พร้อมกันนั้นยังได้ร่วมมือกับบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (มหาชน) ในการจัดส่งสินค้า โดยในเดือนพฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการส่งฟรีทั่วไทย เพื่อลดความในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ของผู้ซื้อและผู้ขาย โดยบริการดังกล่าวทำให้ยอดผู้ขายในแอพพลิเคชั่นช้อปปี้ เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 20% ซึ่ง 97% ของผู้ขายได้ร่วมใช้บริการส่งฟรี มียอดคำสั่งซื้อและจำนวนสินค้าในแอพพลิเคชั่นก็ได้เพิ่มขึ้นกว่า 30% นอกจากนี้ผู้ขายสามารถขยายฐานผู้ซื้อไปยังต่างจังหวัดซึ่งจะเห็นได้จากยอดการซื้อสินค้าในภาคเหนือของประเทศที่เพิ่มขึ้นถึง 60% ทั้งนี้บริษัทจึงได้ตัดสินใจขยายบริการส่งฟรี ไปถึงเดือนสิงหาคม 2559 หลังจากนั้นจะพิจารณาให้บริการดังกล่าวต่ออีกหรือไม่

นายเทเรนซ์ กล่าวต่อไปอีกว่าสำหรับพฤติกรรมการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นช้อปปี้ของผู้ซื้อและผู้ขายนั้นเฉลี่ยมีการใช้งาน 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยกลุ่มสินค้าที่มียอดการซื้อขายสูงผ่านแพลตฟอร์มช้อปปี้ คือ แฟชั่น เครื่องสำอางค์ โมบาย และอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนกลุ่ม หรือหมวดหมู่ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง คือ กลุ่มสินค้าตกแต่งบ้าน ส่วนยอดการใช้จ่ายการซื้อขายสินค้านั้นขึ้นอยู่กับราคาของสินค้าในแต่ละกลุ่ม หากเป็นกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จะมียอดการใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000-3,000 บาท ขณะที่การใช้จ่ายกลุ่มแฟขั่น จะอยู่ราว 200-500 บาท

ทั้งนี้บริษัทในปี 2559 บริษัทตั้งเป้าหมายมียอดผู้ใช้และสินค้าที่ขายผ่านแพลตฟอร์ม ช้อปปี้ เติบโตขึ้น 2 เท่าตัว โดยมีผู้ใช้ประมาณ 4 ล้านราย และมีจำนวนสินค้า 4 ล้านชิ้น ขณะเดียวกันยังมีการลงทุนเพิ่มบุคลาครจาก 100 คน เป็น 200 คน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ และการขยายการให้บริการไปยังต่างจังหวัด

ทั้งนี้มองว่าโอกาสการเติบโตในธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยยังมีมหาศาล เช่นเดียวกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน ที่มีสัดส่วนธุรกิจซื้อขายสินค้าออนไลน์เพียง 1% ของมูลค่าค้าปลีก ขณะที่ยุโรป และอเมริกา มีส่วนสัดมากกว่า 10% ของธุรกิจค้าปลีก ส่วนรูปแบบการสร้างรายได้ช็อปปิ้งออนไลน์แบบ C2C ผ่านแอพพลิเคชั่นช้อปปี้ ขณะนี้ยังไม่ใช้เป้าหมายหลักของบริษัท โดยขณะนี้ต้องการสร้างฐานผู้ใช้ และร้านค้าเข้ามาในแพลตฟอร์มมากขึ้นก่อน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,167 วันที่ 19 - 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559