โรวิโอใช้จุดแข็งโปรโมต Angry Birds ผ่านดิจิตอลคอนเทนต์ข้ามแพลตฟอร์ม

24 พ.ค. 2559 | 06:00 น.
"โรวิโอ" หวังอาศัยการตลาดแบบข้ามแพลตฟอร์มในการโปรโมตภาพยนตร์แอนิเมชัน "แองกรี้เบิร์ดส์" ช่วยฟื้นความนิยมของแบรนด์จากเกมยอดนิยมที่ลดน้อยลงไปในช่วงที่ผ่านมา

สำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่โรวิโอ นำมาใช้ในการโปรโมตภาพยนตร์แอนิเมชัน The Angry Birds Movie คือการเพิ่มคอนเทนต์พิเศษให้กับโมบายเกมล่าสุด แองกรี้เบิร์ดส์ แอกชัน (Angry Birds Action) ให้กับผู้ที่นำแอพพลิเคชันดังกล่าวเข้าไปเปิดในโรงภาพยนตร์ โดยหวังว่ากลยุทธ์ข้ามแพลตฟอร์มดังกล่าวจะช่วยทำให้แบรนด์แองกรี้เบิร์ดส์กลับมาเป็นที่นิยมได้อีกครั้ง
เกมแองกรี้เบิร์ดส์เวอร์ชันแรกออกวางตลาดในปี 2552 และกลายมาเป็นแอพพลิเคชันโมบายที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล อย่างไรก็ดี ช่วงที่ผ่านมายอดขายเกมดังกล่าวลดลงต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท แม้ว่าโรวิโอจะพยายามขยายไลน์สินค้าออกไปสู่ประเภทอื่นๆ และลดการพึ่งพารายได้จากการจำหน่ายซอฟต์แวร์เกมลงก็ตาม ทั้งนี้ โรวิโอรายงานผลประกอบการประจำปี 2558 ขาดทุน 13 ล้านยูโร

ทูโอโม คอร์ปิเนน ประธานธุรกิจแอนิเมชันของโรวิโอ และอดีตผู้บริหารของดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น กล่าวว่า การพัฒนาภาพยนตร์เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจของบริษัทที่จะวิวัฒนาการตนเองให้เป็นมากกว่าบริษัทพัฒนาแอพพลิเคชัน "แนวคิดคือมันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแข่งขันกับคู่แข่งที่ยอดเยี่ยม อย่างดิสนีย์ พิกซาร์ ดรีมเวิร์คส์"

ก่อนหน้านี้โรวิโอได้สร้างคอนเทนต์แอนิเมชันสั้นๆ ซึ่งถูกนำออกมาเผยแพร่ผ่านทางเกมและตูนส์ทีวี ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโมบายของบริษัทสำหรับเผยแพร่ซีรีส์ออริจินัลและคอนเทนต์จากบริษัทอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารโรวิโอต้องการขยายแฟรนไชส์แองกรี้เบิร์ดส์ออกไปอีก "เราเริ่มค้นหาว่าสิ่งใดเป็นปัจจัยที่สร้างแบรนด์ และเราสังเกตเห็นว่าแบรนด์เอนเตอร์เทนเมนต์รายใหญ่มีความเกี่ยวโยงกับการเล่าเรื่อง" มิคาเอล เฮด ประธานบริหารโรวิโอ แอนิเมชัน กล่าว

โรวิโอจึงตัดสินใจลงทุนเป็นมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พัฒนาภาพยนตร์ The Angry Birds Movie ขึ้น "ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นวิวัฒนาการตามธรรมชาติของความต้องการในการเล่าเรื่องราวของตัวละครต่างๆ ของเรา" คอร์ปิเนน กล่าว

ในการทำการตลาดภาพยนตร์ โรวิโออาศัยความแข็งแกร่งของตนเองในการเป็นผู้พัฒนาคอนเทนต์ดิจิตอล โดยนอกเหนือจากคอนเทนต์พิเศษในเกมแล้ว โรวิโอยังนำเสนอคอนเทนต์ด้วยการจับมือกับบริษัทอื่นๆ อาทิ เอชแอนด์เอ็ม แฮสโบร เลโก และแมคโดนัลด์ ผ่าน "เบิร์ดโค้ด" ที่ผู้ใช้งานสามารถเอาสมาร์ทโฟนไปสแกนเพื่อปลดล็อกคอนเทนต์พิเศษต่างๆ สำหรับเกมแองกรี้เบิร์ดส์แอกชัน

"เพราะแกนหลักหรือดีเอ็นเอของเราคือการเป็นบริษัทดิจิตอล เราจึงสามารถนำแคมเปญการตลาดในลักษณะนี้มาใช้ได้" คอร์ปิเนน กล่าว

ทั้งนี้ ภาพยนตร์ The Angry Birds Movie เข้าฉายในตลาดต่างประเทศ 74 แห่งช่วงสุดสัปดาห์ก่อน ทำเงินไปได้ 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่มีกำหนดเริ่มฉายในสหรัฐฯ ในวันที่ 20 พฤษภาคม
แจ็ค เคนท์ นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย ไอเอชเอส เทคโนโลยีฯ กล่าวว่า "ความท้าทายสำหรับภาพยนตร์แองกรี้เบิร์ดส์ คือต้องดูว่าแฟนๆ ของเกมดั้งเดิมมีความภักดีต่อแบรนด์มากน้อยเพียงใด และภาพยนตร์จะสามารถดึงแฟนกลุ่มใหม่เข้ามาชมภาพยนตร์และกลับไปเล่นเกมได้หรือไม่" อย่างไรก็ดี สตีฟ เบลีย์ นักวิเคราะห์จากไอเอชเอสอีกรายหนึ่งให้ความเห็นว่า ในที่สุดแล้วโรวิโอจะต้องมองหาคอนเซ็ปต์อื่นเพื่อความมั่นคงในอนาคต "บริษัทคงไม่สามารถพึ่งพาแองกรี้เบิร์ดส์ได้อีกนานนัก"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,159 วันที่ 22 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559