ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ คว้า “รางวัลรัตนราชสุดาสารสนเทศ”

25 มิถุนายน 2564

ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ คว้า “รางวัลรัตนราชสุดาสารสนเทศ” ประจำปี 2563 คนแรกของไทย รางวัลเกียรติคุณสูงสุดสำหรับบุคลากรทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทาน “รางวัลรัตนราชสุดาสารสนเทศ” ประจำปี 2563 ให้แก่ ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ บุคคลผู้สร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแก่สังคมส่วนรวมและประเทศชาติ อันมีผลงานเป็นที่ประจักษ์และเป็นรูปธรรม ซึ่งมูลนิธิรางวัลรัตนราชสุดาสารสนเทศจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของไทย รางวัลพระราชทาน  เงินรางวัล 2 ล้านบาท เข็มเชิดชูเกียรติทองคำพระราชทาน และโล่พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

 

ศ.ดร.ไพรัช เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ก่อให้เกิดคุณูปการทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศต่อสังคมส่วนรวมและประเทศชาติ ครอบคลุมหลายมิติ รวมไปถึงกลุ่มผู้ด้อยโอกาส เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน วางรากฐานในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศมาอย่างยาวนาน ทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีแบบแผน เป็นระบบ

ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ คว้า “รางวัลรัตนราชสุดาสารสนเทศ”

 

ทั้งนี้ ศ.ดร.ไพรัช คลุกคลีกับงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมามากกว่าครึ่งชีวิต เริ่มรับราชการตั้งแต่ปีพ.ศ.2518ในอดีตเคยดำรงตำแหน่งบริหารในหน่วยงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและอุดมศึกษา ได้แก่ ผู้อำนวยการคนแรกของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC)  ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) คนที่สอง  อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น

 

 ปัจจุบันแม้ว่า จะเกษียณอายุราชการแล้ว แต่ด้วยความรู้ ความสามารถ และความรักในงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ท่านจึงอุทิศตนทำงานด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงการทำงานในองค์กรพัฒนาสังคม องค์กรสาธารณกุศล รวมถึงมูลนิธิอีกหลายแห่งมาอย่างต่อเนื่อง

 

ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ คว้า “รางวัลรัตนราชสุดาสารสนเทศ”

“เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบลำรังสีทรงกรวย” คือผลงานล่าสุด ที่ ศ.ดร.ไพรัชและคณะนักวิจัยได้ประดิษฐ์ขึ้น และเป็นหนึ่งในอีกหลายผลงานที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้คนจำนวนมาก นับเป็นความก้าวหน้าของการบริหารจัดการงานวิจัยและพัฒนาเครื่องมือแพทย์ จากห้องปฏิบัติการไปสู่การผลิตและการใช้งานได้จริง มีคุณภาพเทียบเท่าของต่างประเทศ แต่งบประมาณถูกลง ช่วยลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก”

 

ปัจจุบันมีการนำไปติดตั้งตามโรงพยาบาลทั่วประเทศไทย มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ เครื่องเดนตีสแกน (DentiiScan) เครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์สำหรับงานทันตกรรมและศัลยกรรมบริเวณช่องปากและใบหน้า เครื่องโมบีสแกน (MobiiScan) เครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบเคลื่อนย้ายได้สำหรับผู้ป่วยในท่านอน และเครื่องมินิสแกน (MiniiScan) เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเพื่อตรวจขอบเขตทางรังสีของก้อนเนื้อในห้องผ่าตัด ซึ่งทำให้ช่วยเหลือผู้ป่วยได้หลากหลายมากขึ้น  

เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติ

ดร.ไพรัชกล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้เข้าเฝ้ารับพระราชทาน “รางวัลรัตนราชสุดาสารสนเทศ” ในครั้งนี้ ตลอดระยะเวลาในการทำงาน ผมตั้งโจทย์ว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศที่เก่งต้องไปช่วยประชาชนได้ ทำให้คนไทยได้ประโยชน์ ให้ถึงประชาชนโดยตรง และตอบโจทย์ธุรกิจได้ จึงจะเกิดความยั่งยืน โดยต้องทำให้ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย แต่งบประมาณถูกลง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก

ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์

 

ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลรัตนราชสุดาสารสนเทศ กล่าวว่า “มูลนิธิรางวัลรัตนราชสุดาสารสนเทศได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ    สยามบรมราชกุมารี พระราชทานชื่อมูลนิธิฯ และพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญอักษร พระนามาภิไธย “ส.ธ.” ประดับที่ตราสัญลักษณ์ของมูลนิธิฯ และพระราชทานชื่อรางวัลว่า “รางวัลรัตนราชสุดาสารสนเทศ” นับเป็นมงคลอย่างยิ่ง สำหรับการเริ่มต้นรูปแบบการสรรหาและมอบรางวัลรัตนราชสุดาสารสนเทศ ประจำปีพ.ศ.2563 เป็นครั้งแรกของประเทศไทย

 

ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลรัตนราชสุดาสารสนเทศ

 

รางวัลนี้ ถือว่าเป็นรางวัลสูงสุดทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของคนไทย เพื่อคนไทย ซึ่งยังไม่เคยมีหน่วยงานหรือองค์กรใดในประเทศไทยจัดมาก่อน ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญของบุคลากรทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในการเดินหน้ามุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ รวมถึงเป็นแบบอย่างและมีส่วนผลักดันให้เกิดนักคิด นักพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศให้มีมากขึ้น อันจะเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย