การ์ทเนอร์ คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกปี 64 โตพุ่ง 6.2%

26 ม.ค. 2564 | 11:09 น.

“การ์ทเนอร์” คาดการณ์แนวโน้มการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกปี 2564 จะมีมูลค่า 3.9 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเป็น 6.2% เผย CIOให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีในช่วงการระบาดระยะเริ่มต้น

     นายจอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย บริษัท การ์ทเนอร์ กล่าวว่า การปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาเพื่อใช้ทำงานและการเรียนจากระยะไกลได้สร้างปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอย่างไม่คาดคิดในปี 2563  รวมถึงการใช้ชีวิตวิถีใหม่ช่วงล็อคดาวน์และมาตรการเว้นระยะห่างที่เปรียบเสมือนดาบสองคม ซึ่งยังเป็นปัจจัยช่วยลดผลกระทบเชิงลบของโรคระบาดนี้ต่อการใช้จ่ายด้านไอทีช่วงปีใหม่

 

“สิ่งที่ซีไอโอในปี 2564 จะมีมาตรการที่มีดุลยภาพต่อกันนั่นคือการเก็บเงินสดในขณะเดียวกันก็ต้องขยายระบบไอที และเมื่อเศรษฐกิจกลับคืนสู่สภาวะปกติ ธุรกิจก็จะมุ่งลงทุนกับไอทีตามแผนเพื่อสร้างการเติบโตไม่ใช่เป็นการลงทุนตามรายได้ ณ ปัจจุบันโดยในปีนี้ธุรกิจดิจิทัลที่มีโปรเจกต์ที่เห็นผลในระยะสั้นจะได้รับเงินทุนและความสนใจมากกว่าจากผู้บริหารและคณะกรรมการคัดเลือก”

 

      ทั้งนี้คาดว่าการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทุกเซกเมนต์จะกลับมาเติบโตในปี 2564 (ดูตารางที่ 1) ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรจะเติบโตสูงสุด (8.8%) จากการพัฒนาและปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานระยะไกล โดยกลุ่มอุปกรณ์ดีไวซ์จะมีอัตราการเติบโตรองลงมา (8%) โดยมีมูลค่าถึง 705.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

      อย่างไรก็ตามมีปัจจัยหลากหลายที่ช่วยผลักดันให้ตลาดดีไวซ์เติบโตสูงขึ้น การที่ประเทศต่าง ๆ ยังคงใช้รูปแบบการศึกษาจากระยะไกลต่อเนื่องตลอดปีนี้จะส่งผลให้ความต้องการแท็บเล็ตและแล็ปท็อปของนักเรียนเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับที่หลายองค์กรกำลังดำเนินการให้การทำงานระยะไกลของพนักงานเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น โดยที่มาตรการกักตัวอยู่บ้านรวมถึงปัจจัยด้านเสถียรภาพของงบประมาณช่วยให้ซีไอโอได้กลับมาลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบเมื่อปี 2563 อีกครั้ง

 

     ขณะที่ในปี 2567 ธุรกิจต่าง ๆ จะถูกบังคับให้เร่งแผนการเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่ดิจิทัลอย่างน้อยห้าปีเพื่อเอาตัวให้รอดในโลกหลังโควิด -19 โดยการทำงานระยะไกลและช่องทางสื่อสารดิจิทัลจะได้รับการยอมรับและนำมาใช้อย่างถาวร การ์ทเนอร์คาดการณ์การใช้จ่ายด้านไอทีทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการทำงานระยะไกลจะมีมูลค่ารวมสูงถึง 332.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2564 เพิ่มขึ้น 4.9% จากปี 2563

การ์ทเนอร์ คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกปี 64 โตพุ่ง 6.2%

“ช่วงปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปี 2564 ธุรกิจดิจิทัลนำเทคโนโลยีที่เป็นเทรนด์ต่าง ๆ มาปรับใช้ได้อย่างโดดเด่น อาทิ  การประมวลผลผ่านคลาวด์, การใช้แอปพลิเคชันทางธุรกิจ, เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและเพิ่มประสบการณ์ลูกค้าระดับแถวหน้า รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพให้ความคิดริเริ่มใหม่ ๆ เช่น ระบบไฮเปอร์ออโตเมชัน ซึ่งจะยังเดินหน้าพัฒนาต่อและให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนแก่โปรเจกต์เหล่านั้น รวมถึงขจัดงานในกระบวนการที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป” นายเลิฟล็อคกล่าว

     แม้จะมีการฉีดวัคซีน โควิด -19 ให้กับประชาชนแล้วแต่ไวรัสนี้ยังคงแทรกแซงเสถียรภาพรัฐบาลต่าง ๆ ตลอดปี 2564 โดยมีปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ โควิด -19 เช่น การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (หรือ Brexit) และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ - จีน ซึ่งจะเป็นปัจจัยยับยั้งการฟื้นตัวในบางภูมิภาค

    โดยภาพรวมการฟื้นตัวของตลาดไอทีระดับโลกจะยังไม่กลับไปอยู่ในระดับเดียวกันกับปี 2562 จนกว่าจะถึงปี 2565 แม้หลายประเทศอาจจะฟื้นตัวเร็วกว่า แต่ในระยะยาวอุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งรวมผู้คน อาทิ ร้านอาหารและภัตตาคารต่างๆ การเดินทางท่องเที่ยว และความบันเทิงจะยังมีแนวโน้มเติบโตต่ำ

      “โควิด-19 ได้เปลี่ยนความสามารถทางเทคโนโลยีหรือที่การ์ทเนอร์เรียกว่า techquilibrium ให้กับหลายอุตสาหกรรม ยกระดับความสามารถของกระบวนการไปสู่ดิจิทัลภายในองค์กร, ห่วงโซ่อุปทาน, การโต้ตอบกับลูกค้าและคู่ค้า รวมถึงการส่งมอบบริการที่กำลังมาในปี 2564 ให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น และเปลี่ยนบทบาทไอทีจากการสนับสนุนธุรกิจไปสู่การเป็นธุรกิจ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุดของปีนี้ คือ ไอทีจะได้รับเงินสนับสนุนอย่างไร มากกว่ากังวลกับจำนวนเงินทุนที่ใช้สนับสนุนด้านไอที