60%ผู้บริโภคผวาโควิดวางแผนช็อปออนไลน์

01 ธ.ค. 2563 | 07:10 น.

ผลวิจัยไอบีเอ็มชี้ ผู้บริโภคทั่วโลกส่วนใหญ่หันพึ่งอี-คอมเมิร์ซ และมองถึงเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น สำหรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลสิ้นปี ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 แนะธุรกิจเตรียมพร้อมจัดหาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่สามารถปรับเข้ากับความต้องการเฉพาะบุคคลเพื่อครองใจลูกค้า

ผลการวิจัยของสถาบันการศึกษาคุณค่าทางธุรกิจของไอบีเอ็ม (IBV) ชี้ให้เห็นว่า แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้รูปแบบการช็อปปิ้งในช่วงเทศกาลมีรูปแบบที่หลากหลายออกไป แต่สิ่งที่ผู้บริโภคทั่วโลกยังให้ความสำคัญสูงสุดคือการคำนึงถึงประเด็นการสร้างความยั่งยืน

ผู้บริโภคทั่วโลก 54% จากทั้งหมดที่ตอบแบบสำรวจระบุว่า พวกเขาเต็มใจที่จะเปลี่ยนอุปนิสัยการซื้อสินค้าในช่วงวันหยุดยาวเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยแนวคิดดังกล่าวมีความเด่นชัดเป็นพิเศษในบางประเทศ เช่น ในอินเดีย ( 74%) เม็กซิโก (74%) และบราซิล (66%) ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากตัวเลข 57% จากผลการวิจัยโดย IBM และ NRF ที่จัดทำขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2563 ที่สำรวจผู้บริโภคจำนวนเกือบ 19,000 คน

แม้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแง่ของงบประมาณและการจ้างงานของผู้บริโภคจำนวนมาก อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 แต่สิ่งที่บรรดานักช็อปมองหากลับไม่ใช่เพียงแค่สินค้าลดราคา ปีนี้ผู้บริโภค 44% จากทั้งหมดที่ตอบแบบสำรวจหันมาพิจารณาเรื่องความยั่งยืนมากขึ้นเวลาที่เลือกซื้อสินค้าหรือตัดสินใจเลือกยี่ห้อที่จะซื้อ

งานวิจัย Home for the Holidays” ที่ได้รวมข้อมูลเชิงลึกจากผู้บริโภคจำนวนมากกว่า 12,500 คนทั่วโลกในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้เปิดเผยถึงแนวโน้มและการซื้อสินค้าของผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงแผนการเดินทางและท่องเที่ยวพักผ่อนที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19

นายเฮซุส แมนทัส หุ้นส่วนผู้จัดการอาวุโส (Senior Managing Partner) ของไอบีเอ็ม เซอร์วิสเซส กล่าวว่า“งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคจำนวนมากขึ้น เริ่มช็อปปิ้งสำหรับช่วงเทศกาลสิ้นปีเร็วขึ้นกว่าในปีก่อนๆ และหลายคนวางแผนซื้อสินค้าออนไลน์แทนที่จะไปซื้อที่ร้าน  เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น ในปีที่แล้ว 60% ของเป็นการช็อปปิ้งในร้านค้า และเกือบ 30% เป็นการช็อปออนไลน์ แต่ในปีนี้ตัวเลขเหล่านั้นแทบจะสลับกัน ธุรกิจต่างๆ ควรเตรียมพร้อมที่จะจัดหาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่สามารถปรับเข้ากับความต้องการเฉพาะบุคคลเพื่อครองใจลูกค้า และใช้เทคโนโลยีต่างๆ อย่างคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยให้สามารถจัดการกับระดับอุปสงค์ที่ผันผวน บริหารซัพพลายเชนได้รวดเร็วแบบเกือบเรียลไทม์ รวมถึงมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อ”

60%ผู้บริโภคผวาโควิดวางแผนช็อปออนไลน์

ไอบีเอ็มคาดการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับช่วงเทศกาลวันหยุดสิ้นปีว่า ยอดขายของธุรกิจค้าปลีกในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมปีนี้จะเพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับปี 2562 ผลการสำรวจของ IBV ชี้ว่า ปี 2563 จะเป็นช่วงวันหยุดสิ้นปีที่ผู้คนเน้นการช็อปปิ้งออนไลน์เป็นอันดับแรก

60%ผู้บริโภคผวาโควิดวางแผนช็อปออนไลน์

ทั้งนี้ ผู้บริโภคทั่วโลกมากกว่า 60% ที่ตอบแบบสำรวจระบุว่า พวกเขาวางแผนจะซื้อสินค้าออนไลน์ โดยให้มีการจัดส่งสินค้าไปที่บ้านหรือสถานที่อื่นๆ หรือซื้อสินค้าออนไลน์และไปรับที่ร้านหรือจุดรับสินค้า โดยการให้จัดส่งสินค้าไปที่บ้านหรือสถานที่อื่นๆ นั้นมีอัตราเพิ่มขึ้นสูงสุดโดยเฉพาะในกลุ่มเบบี้บูม (อายุ 55-70 ปีขึ้นไป) หรือเพิ่มขึ้น 116% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รายงานยังระบุว่าในปีที่แล้ว มีผู้บริโภคที่ตอบแบบสำรวจ 62% ที่บอกว่าได้ซื้อสินค้าที่ร้านค้าสำหรับช่วงเทศกาลสิ้นปี แต่ในปีนี้ มีเพียงแค่ 28% เท่านั้นที่วางแผนว่าจะไปซื้อของที่ร้าน

ในการเลือกของขวัญ ผู้บริโภคที่ตอบแบบสำรวจระบุว่ามีแนวโน้มที่พวกเขาจะเน้นที่ตัวผลิตภัณฑ์มากกว่าประสบการณ์ของผู้รับ ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่กล่าวว่า พวกเขาจะใช้เงินมากขึ้นไปกับความบันเทิงระบบดิจิทัล/การสตรีม (เพิ่มขึ้น 39% เทียบกับในปีที่แล้ว) เฟอร์นิเจอร์ (เพิ่มขึ้น 33% เทียบกับในปีที่แล้ว) สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (เพิ่มขึ้น 13% เทียบกับในปีแล้ว) รวมถึงของเล่นและเกมส์ต่างๆ (เพิ่มขึ้น 9% เทียบกับในปีที่แล้ว)

ผู้บริโภคกังวลว่าสถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อแผนการเดินทางและการท่องเที่ยววันหยุด โดยการวิจัยพบว่า ความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 นั้นยังคงมีอยู่สูง โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่ระบุว่าได้เปลี่ยนแผนการเดินทางและการท่องเที่ยววันหยุดสำหรับเทศกาลวันหยุดสิ้นปีนี้ผู้บริโภคที่ตอบแบบสำรวจจำนวนมากกว่าครึ่ง ซึ่งมักจะเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุด ระบุว่าพวกเขาวางแผนจะเดินทางน้อยลงในช่วงวันหยุดสิ้นปีนี้ และมีจำนวน 22% บอกว่ายังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยว และในบรรดาผู้บริโภคที่ตอบว่าจะเดินทางนั้น มี 67% ที่ระบุว่าพวกเขาจะเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถเช่าเป็นหลัก

ขณะที่พนักงานบริษัทที่ตอบแบบสำรวจระบุว่า พวกเขาขอลาหยุดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และระบุว่าโควิด-19 เป็นสาเหตุหลักของการลาหยุดในปีนี้ รวมไปถึงการที่ต้องดูแลตนเองและครอบครัว และ 1ใน3ของพนักงานบริษัททั่วโลกที่ตอบแบบสำรวจระบุว่า พวกเขาต้องเผชิญกับข้อจำกัดในที่ทำงาน ที่จำกัดไม่ให้พวกเขาใช้วันหยุดที่เหลืออยู่ในปีนี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะงานยุ่งเกินไปหรือข้อจำกัดเรื่องตารางเวลาในการทำงาน