ซัมซุง ต่อยอดโมเดลผสานความรู้โค้ดดิ้ง สร้างนวัตกรรุ่นเยาว์

13 ก.ค. 2563 | 10:28 น.

ซัมซุงถอดบทเรียนความสำเร็จ Samsung Innovations Campus สอนโค้ดดิ้งออนไลน์ให้สำเร็จ เตรียมขยายผลสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์ ต่อยอดโมเดลผสานความรู้โค้ดดิ้งกับความเข้าใจและการพัฒนานวัตกรรม

 

นายวาริท จรัณยานนท์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด และผู้จัดการโครงการ Samsung Innovation Campus กล่าวว่า “หลังจากที่ดำเนินโครงการ Samsung Innovation Campus โครงการเพื่อสังคมที่พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมศักยภาพเด็กไทยในยุคดิจิทัลผ่านการอบรมโค้ดดิ้ง (Coding) ตามวิสัยทัศน์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของซัมซุงทั่วโลก ในการมุ่งสร้างพลังคน มุ่งสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน (Together for Tomorrow! Enabling People) ในปีนี้ ได้พบว่าการยกระดับโครงการสู่รูปแบบออนไลน์ได้ผลตอบรับจากผู้เข้าร่วมโครงการเป็นอย่างดี โดยผลจากการสำรวจพึงพอใจของนักเรียนผู้ร่วมโครงการ พบว่า  80% พึงพอใจในรุปแบบ เนื้อหาและพบว่า สามารถนำเอาความรู้และทักษะที่ได้ไปใช้กับงานในอนาคต แม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องรูปแบบที่จำเป็นจะต้องอบรมผ่านทางออนไลน์เท่านั้น แต่ความสำเร็จของโครงการปีนี้ เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยด้วยกัน อันดับแรกคือการที่โครงการทำการปรับเนื้อหาทั้งในส่วนของโค้ตดิ้งที่เน้นภาษาที่สามารถเสริมความเข้าใจระหว่างกัน เป็นภาษาพื้นฐานที่เรียนได้ง่ายผ่านห้องเรียนในลักษณะออนไลน์ และเนื้อหายังต้องเหมาะกับเยาวชนที่ไม่มีพื้นฐานด้านโค้ดดิ้งมาก่อน 

ซัมซุง ต่อยอดโมเดลผสานความรู้โค้ดดิ้ง สร้างนวัตกรรุ่นเยาว์

พร้อมกันนี้ โครงการยังเสริมเนื้อหาในส่วนของความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรมและเครื่องมือสำหรับนวัตกร เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งด้านความรู้และทักษะแห่งอนาคตให้กับผู้เข้าร่วมโครงการอย่างรอบด้านและสามารถสร้างสรรค์ไอเดียออกแบบนวัตกรรมได้ นอกจากนี้ ระบบสนับสนุนการเรียนออนไลน์ ทั้งในส่วนที่เป็นโปรแกรมเรียนสด ติดตามและปรึกษาเนื้อหา รวมถึงความร่วมมือจากพันธมิตรที่เข้ามาร่วมพัฒนาเนื้อหายังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้โครงการสมบูรณ์ยิ่งขึ้น 

โดยในปีนี้ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น เป็นพันธมิตรที่เข้ามาช่วยพัฒนาเนื้อหาโค้ดดิ้ง 3 ภาษา Scratch C และ Python และบริษัท สยามเมนทิส จำกัด ร่วมพัฒนาเนื้อหาและออกแบบกิจกรรมเสริมความเข้าใจความสำคัญและการออกแบบพัฒนานวัตกรรม”

อาจารย์อดิศักดิ์ เสือสมิง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า “จากโครงการนี้เราได้เห็นศักยภาพของเด็กๆ ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความสามารถในการเรียนรู้ของนักเรียน ที่สามารถทำความเข้าใจเนื้อหาที่มีความยากและท้าทายสูงในระดับมหาวิทยาลัยได้จากที่ไม่มีความรู้มาก่อนประเด็นการตั้งคำถาม ซึ่งนักเรียนตั้งคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนได้ดี แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีความใฝ่รู้ อยากแก้ปัญหา และอยากพัฒนาผลงานของตนเองให้ดียิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ ยังเห็นได้ชัดว่า ผู้เข้าร่วมโครงการนับเป็น “เยาวชนแห่งยุคดิจิทัล” ที่แท้จริงคือสามารถทำความเข้าใจเนื้อหาไอทีได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีพื้นฐานความเข้าใจดีอยู่แล้ว สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เพราะมีตัวอย่างให้เห็นอยู่รอบตัว อาทิเช่น แอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน และสามารถประยุกต์ต่อยอดได้อย่างสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ แบบที่คนรุ่นที่ผ่านมาไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งนี้หากเราเริ่มปูความรู้และช่วยผลักดันนวัตกรรุ่นเยาว์ได้เร็วเท่าไหร่ ก็สามารถส่งเสริมให้มีความรู้และประสบความสำเร็จได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งความรู้ที่ได้รับจากโครงการฯ จะเป็นประโยชน์ต่อเส้นทางอาชีพนวัตกร นักออกแบบและพัฒนาโปรแกรม และนักวิจัยนวัตกรรม ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดงานในปัจจุบันแน่นอน”

 

สำหรับเยาวชน ผู้เข้าร่วมโครงการ Samsung Innovation Campus อนาคตนวัตกรคนเก่งซึ่งมีความสนใจในเรื่องโค้ดดิ้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต่างได้รับความรู้และทักษะเตรียมพร้อมมากยิ่งขึ้นสำหรับงานในวันข้างหน้า