แซดทีอี มุ่งยกระดับธุรกิจเชิงพาณิชย์สู่ 5G SA

04 ก.ค. 2563 | 05:37 น.

แซดทีอี ร่วมกับ GSMA จัดงานถ่ายทอดสดออนไลน์ 5G SA Summit 2020 ภายใต้แนวคิด “เปิดยุคใหม่ของโลกธุรกิจ” มั่นใจโซลูชั่นเครือข่าย SA กลยุทธ์เด็ดการพัฒนาธุรกิจในประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ในปี 63 รุกจับมือพันธมิตรกลุ่มอุตสาหกรรมไอทีและธุรกิจชั้นนำชี้เทรนด์ธุรกิจนำทีมผู้บริหารชั้นนำจาก ไชน่า เทเลคอม, ไชน่า โมบายล์, ไชน่า ยูนิคอม, ออเรนจ์, Deutsche Telekom, Ooredoo, GSMA และ เทนเซนต์ มุ่งจัดงานถ่ายทอดสดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ GSMA Thrive  เน้นปัจจัยการสร้างเครือข่าย 5G SA เผยโครงสร้างพื้นฐาน 5G ศักยภาพเยี่ยม ด้านนวัตกรรมพร้อมรองรับธุรกิจ ยกระดับเชิงพาณิชย์ B2C และ B2B สู่ 5G SA

แซดทีอี มุ่งยกระดับธุรกิจเชิงพาณิชย์สู่ 5G SA

นายจาง เจี้ยนเผิง รองประธานอาวุโสของแซดทีอี  เปิดเผยว่า “ สำหรับ 5G SA จะเป็นการสร้างโอกาสมหาศาลให้กับผู้ให้บริการในการพัฒนาธุรกิจ B2C  และ B2B แบบบูรณาการในยุคใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับความท้าทายหลายประการ ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนและส่งเสริมการใช้งาน 5G SA ทั้งนี้ ZTE ซึ่งเชี่ยวชาญด้านโซลูชั่น end-to-end SA ที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน ได้ดำเนินการปรับใช้และตรวจสอบระบบดังกล่าวร่วมกับหุ้นส่วนธุรกิจหลายราย”
แซดทีอี มุ่งยกระดับธุรกิจเชิงพาณิชย์สู่ 5G SA

ด้านนายฮันส์ เนฟฟ์ CTO แซดทีอี  กล่าวต่อไปว่า “ การแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับ 5G SA โดยเชื่อว่าระบบนิเวศ 5G SA จะส่งเสริมการติดตั้งและใช้งานในวงกว้าง แซดทีอีคาดว่าจะช่วยให้ผู้บริการทั่วโลกค้นพบศักยภาพ 5G อย่างเต็มรูปแบบโดยการใช้งานผลิตภัณฑ์ 5G SA ที่ทันสมัย และประสบการณ์ในการสร้างเครือข่ายที่ครอบคลุม ซึ่งในปี 2563 5G SA พร้อมแล้วสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบในเชิงพาณิชย์ทั้งในแง่ของมาตรฐานที่สมบูรณ์แบบ ชิปเซ็ต เครื่องปลายทาง และเครือข่าย ผู้ให้บริการรายใหญ่ทั่วโลกได้ตระหนักถึงศักยภาพและโอกาสอันสดใสของ 5G SA และเริ่มเดินหน้าส่งเสริมวิวัฒนาการการก้าวจาก 5G ไปสู่เครือข่าย SA นั่นเอง ”

ด้านนายหลิว ฮง  (Liu Hong)  หัวหน้าทีมเทคโนโลยีของจีเอสเอ็มเอ เกรทเทอร์ ไชน่ากล่าวว่า “ จากการคาดการณ์เทรนด์ในเรื่อง 5G SA  มองว่าการพัฒนา 5G จะยังดำเนินต่อไปและแข็งแกร่งมากขึ้น การริเริ่ม 5G SA จะเป็นเหตุการณ์สำคัญในกระบวนการพัฒนา 5G

อีกทั้ง  นายเว่ย ลีปิง (Wei Leping) ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอำนวยการด้านเทคโนโลยีของไชน่า เทเลคอม กล่าวเพิ่มเติมว่า  “ ด้านความคืบหน้าล่าสุดของระบบนิเวศ 5G SA ไชน่า เทเลคอมเป็นผู้นำในการทดสอบความสามารถในการทำงานร่วมกันและการตรวจสอบการทำงานของระบบแบบครบวงจรของ SA ด้วยการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากคลาวด์-เน็ตเวิร์ค-เอจ ไชน่า เทเลคอม ได้เร่งผลักดันการใช้งานในอุตสาหกรรมแนวดิ่ง ซึ่งเป็นการโปรโมท 5G SA เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแนวดิ่ง  โดยไชน่า เทเลคอมมุ่งมั่นในการนำ 5G SA. ไปใช้ในอุตสาหกรรมที่เน้นเรื่องคุณภาพสูง โดยมุ่งเป้าที่อุตสาหกรรม การขนส่ง สื่อ การดูแลสุขภาพ และการศึกษา เป็นต้น

นอกจากนี้นางสาวหวง หยู่หง (Huang Yuhong ) รองประธานสถาบันวิจัยไชน่าโมบายล์ ของไชน่าโมบายล์  กล่าวเสริมว่า “ สถาบันวิจัยไชน่าโมบายล์ มีเป้าหมายการพัฒนา SA ได้สร้างเครือข่ายบีทูบีและบีทูซีแยกจากกันเพื่อการบรรจบกันของ 4G และ 5G  ซึ่งไชน่า โมบายล์มีเป้าหมายพัฒนาเครือข่าย 5G SA ที่ล้ำสมัยและขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยการประสานคลื่นความถี่ 700M, 2.6G และ 4.9 GHz และการเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อ รวมทั้งการใช้คลื่นความถี่ 4.9G ในภาคอุตสาหกรรม”