เผยโฉม iPadOS14 มาพร้อมคุณสมบัติและดีไซน์ใหม่

23 มิ.ย. 2563 | 07:28 น.

​​​​​​​แอปเปิล เผยโฉม iPadOS 14 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติและดีไซน์ใหม่ๆ ซึ่งใช้ประโยชน์จากความสามารถเฉพาะตัวและจอภาพแบบ Multi-Touch ขนาดใหญ่ของ iPad และ iPadOS 14 ยังมาพร้อมดีไซน์อันกะทัดรัดแบบใหม่หมดสำหรับสาย FaceTime และโทรศัพท์ที่ได้รับ, การโต้ตอบกับ Siri และการค้นหา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับสิ่งที่ทำอยู่ต่อไปได้ ส่วนแอพต่างๆ ยังมีแถบด้านข้างและแถบเครื่องมือใหม่ที่รวมส่วนควบคุมทั้งหมดไว้ในที่เดียว ทำให้ใช้งานได้รวดเร็วและทรงพลังยิ่งกว่าที่เคย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ใช้ร่วมกับ Apple Pencil อย่าง Scribble สำหรับ iPad ซึ่งเป็นวิธีใหม่ในการทำงานกับโน้ตที่เขียนด้วยลายมืออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึง ARKit 4 ที่มาพร้อม Depth API ใหม่ล่าสุด ซึ่งเปิดโอกาสให้นักพัฒนาได้สร้างคุณสมบัติอันทรงพลังยิ่งขึ้นในแอพของตน

เคร็ก เฟเดอริกิ รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิล  กล่าวว่า "เราตื่นเต้นที่จะได้ยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPad ให้เหนือชั้นไปอีกขั้นด้วย iPadOS 14 ซึ่งจะช่วยลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการสร้างสรรค์ อีกทั้งยังสนุกยิ่งกว่าเดิมด้วย"

"iPadOS 14 มาพร้อมดีไซน์ที่กะทัดรัดสำหรับการโต้ตอบกับระบบ และดีไซน์ใหม่ของแอพที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับ iPad รวมถึงความสามารถในการจดโน้ตด้วย Apple Pencil ที่ดียิ่งขึ้น และประสบการณ์ด้าน AR ที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม ทั้งหมดนี้จะมอบประสบการณ์อันน่าทึ่งในแบบที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างแน่นอน"

เผยโฉม iPadOS14 มาพร้อมคุณสมบัติและดีไซน์ใหม่

ดีไซน์กะทัดรัดแบบใหม่หมดสำหรับสาย FaceTime และโทรศัพท์ที่ได้รับ, การโต้ตอบกับ Siri และการค้นหานั้นมีประโยชน์อย่างยิ่งบน iPad เพราะช่วยให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับสิ่งที่ทำอยู่และทำสิ่งต่างๆ ควบคู่กันไปได้มากยิ่งขึ้น โดยที่ตอนนี้สาย FaceTime และโทรศัพท์ที่ได้รับจะอยู่ในรูปแบบของแบนเนอร์เล็กๆ ที่ไม่กินพื้นที่หน้าจอทั้งหมด ทำให้สามารถแตะรับสายได้ง่ายๆ อย่างรวดเร็ว หรือหากไม่ต้องการรับสายก็สามารถปัดทิ้งแล้วกลับไปทำงานต่อได้ ส่วน Siri ก็จะปรากฏที่ด้านล่างของหน้าจอเมื่อเรียกใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้ดูข้อมูลอ้างอิงบนหน้าจอพร้อมกับขอให้ Siri ทำสิ่งต่างๆ ได้แบบไม่ขาดตอน แล้ว Siri ก็จะเลื่อนออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อเปิดแอพอื่นๆ หรือควบคุมการเล่นเพลง

เผยโฉม iPadOS14 มาพร้อมคุณสมบัติและดีไซน์ใหม่

การค้นหาบน iPad ใน iPadOS 14 ได้รับการปรับปรุงแบบยกเครื่อง จึงสามารถค้นหาแทบทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็วในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นค้นหาหรือเปิดแอพ ไปจนถึงการดูรายชื่อผู้ติดต่อ ไฟล์ และข้อมูลสั้นๆ หรือแม้แต่การหาคำตอบของคำถามทั่วไปเกี่ยวกับผู้คนและสถานที่ นอกจากนี้ดีไซน์ใหม่ที่กะทัดรัดยังช่วยให้ผู้ใช้เริ่มค้นหาจากที่ใดก็ได้โดยไม่ต้องออกจากแอพที่ใช้อยู่ ส่วนการค้นหาบนเว็บก็ทรงพลังและละเอียดยิ่งขึ้น จึงแสดงผลการค้นหาแนะนำได้ตรงยิ่งกว่าเดิมในขณะที่ผู้ใช้พิมพ์ อีกทั้งยังสามารถไปที่ผลการค้นหาได้ทันทีเพียงแค่แตะครั้งเดียว

แถบด้านข้างที่ออกแบบใหม่ในหลายๆ แอพ ทั้งแอพรูปภาพ ไฟล์ โน้ต ปฏิทิน และ Apple Music รวมการเข้าออกส่วนต่างๆ ไว้ในที่เดียว จึงสามารถเข้าออกส่วนต่างๆ ภายในแอพได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคยโดยที่คอนเทนต์ยังคงโดดเด่นอยู่กลางหน้าจอ นอกจากนี้ยังมีแถบเครื่องมือที่เรียบง่ายยิ่งขึ้นพร้อมด้วยเมนูใหม่แบบดึงลงที่ช่วยให้เข้าถึงส่วนควบคุมทั้งหมดของแอพได้จากที่เดียว

เผยโฉม iPadOS14 มาพร้อมคุณสมบัติและดีไซน์ใหม่

iPadOS 14 นำคุณสมบัติ Scribble ด้วย Apple Pencil มาสู่ iPad ทำให้ผู้ใช้สามารถเขียนลงในช่องข้อความใดก็ได้ แล้วข้อความนั้นจะถูกแปลงเป็นตัวพิมพ์โดยอัตโนมัติ ช่วยให้การทำสิ่งต่างๆ อย่างการตอบกลับ iMessage หรือการค้นหาใน Safari ทั้งง่ายและรวดเร็ว ส่วนการเขียนด้วยลายมือและการแปลงเป็นตัวพิมพ์นั้นจะเกิดขึ้นบนอุปกรณ์ทั้งหมด จึงหมดห่วงเรื่องความปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้เมื่อจดโน้ต คุณสมบัติ Smart Selection จะใช้การเรียนรู้ของระบบในตัวอุปกรณ์เพื่อแยกแยะระหว่างลายมือและรูปวาด จึงสามารถเลือก ตัด และวางข้อความที่เขียนด้วยลายมือลงในเอกสารอีกฉบับในรูปแบบของตัวพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย1 อีกทั้งยังรู้จักรูปทรงต่างๆ ผู้ใช้จึงสามารถวาดรูปทรงเรขาคณิตได้อย่างถูกต้องแม่นยำ โดยที่รูปทรงนั้นจะยึดเข้ากับตำแหน่งที่ต้องการพอดีเมื่อผู้ใช้เพิ่มแผนภาพและภาพประกอบที่เป็นประโยชน์ลงในโน้ต

วันนี้ตัวตรวจหาข้อมูลใช้งานกับข้อความที่เขียนด้วยลายมือได้แล้ว จึงรู้ว่าข้อความใดคือหมายเลขโทรศัพท์ วันที่ และที่อยู่ โดยที่ผู้ใช้สามารถทำสิ่งต่างๆ อย่างการแตะหมายเลขโทรศัพท์ที่เขียนด้วยลายมือเพื่อโทรออก เพิ่มกิจกรรมลงในปฏิทินโดยตรง หรือแสดงตำแหน่งที่ตั้งในแอพแผนที่ก็ได้

เริ่มแรก Scribble จะมีให้ใช้งานในภาษาอังกฤษ, ภาษาจีนตัวเต็มและตัวย่อ และภาษาจีนผสมกับภาษาอังกฤษ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเขียนคำภาษาอังกฤษและจีนพร้อมกันได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนภาษา

เผยโฉม iPadOS14 มาพร้อมคุณสมบัติและดีไซน์ใหม่

เทคโนโลยีความจริงเสริมที่สมจริงยิ่งกว่าเดิม

AR ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเทคโนโลยีอันทรงพลังที่ช่วยให้ทำสิ่งต่างๆ ได้สำเร็จลุล่วงอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน และ ARKit 4 ก็มาพร้อมกับ Depth API ใหม่ล่าสุด ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลมิติความลึกที่แม่นยำยิ่งขึ้นจาก LiDAR Scanner ใหม่บน iPad Pro โดยนักพัฒนาสามารถใช้ Depth API เพื่อเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ อันทรงพลังให้กับแอพของตน อย่างการวัดสัดส่วนของร่างกายเพื่อลองใส่เสื้อผ้าแบบเสมือนจริงได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น หรือการดูตัวอย่างสีห้องบนผนังก่อนทาจริง นอกจากนี้ ARKit 4 ยังมีคุณสมบัติใหม่อย่าง Location Anchors สำหรับแอพ iOS และ iPadOS ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลแผนที่ใหม่ที่มีความละเอียดสูงยิ่งขึ้นใน Apple Maps ในบางประเทศหรือพื้นที่ที่เปิดให้ใช้งานได้ เพื่อปักหมุดประสบการณ์ AR ไว้ที่จุดใดจุดหนึ่งในโลกได้

จากนี้ไปแอพทั้งหมดจะต้องขออนุญาตจากผู้ใช้ก่อนติดตามการใช้งาน และภายในปีนี้ หน้าผลิตภัณฑ์ App Store จะมีข้อมูลสรุปแนวทางด้านความเป็นส่วนตัวของนักพัฒนาในรูปแบบที่อ่านและทำความเข้าใจง่าย นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถอัพเกรดบัญชีที่มีอยู่เดิมให้ใช้การลงชื่อเข้าด้วย Apple รวมถึงเลือกแชร์ตำแหน่งคร่าวๆ กับนักพัฒนาแอพโดยไม่ต้องบอกตำแหน่งจริงเมื่ออนุญาตให้แอพเข้าถึงตำแหน่งของตน และยังเพิ่มความโปร่งใสเกี่ยวกับข้อมูลการใช้ไมโครโฟนและกล้องของแอพอีกด้วย

คุณสมบัติอื่นๆ ของ iPadOS 14

-วิดเจ็ตที่ออกแบบขึ้นใหม่หมดอย่างสวยงามจะแสดงข้อมูลที่ใช่ในจังหวะที่ต้องการให้ผู้ใช้เหลือบมองได้ง่ายๆ โดยผู้ใช้สามารถเลือก Smart Stack รวมวิดเจ็ต ซึ่งจะใช้ระบบอัจฉริยะในตัวอุปกรณ์เพื่อแสดงวิดเจ็ตที่ใช่ขึ้นมาให้เห็นตามเวลา สถานที่ และกิจกรรมที่ทำอยู่

-แอพข้อความคือศูนย์กลางในการติดต่อกับเพื่อนๆ และครอบครัว มาวันนี้การติดต่อถึงกันนั้นก็จะง่ายยิ่งขึ้น และยังเปิดดูข้อความสำคัญได้อย่างรวดเร็ว เพราะผู้ใช้สามารถปักหมุดการสนทนาไว้ด้านบนสุดของรายการข้อความ รวมถึงติดตามกลุ่มสนทนาที่คุยกันเยอะๆ ได้ง่ายโดยใช้วิธีพูดถึงและตอบกลับแบบอ้างอิงข้อความเดิม อีกทั้งยังปรับแต่งการสนทนาได้มากขึ้นโดยการตั้งรูปภาพประจำกลุ่มเป็นรูปหรืออิโมจิก็ได้ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกใหม่ๆ ที่หลากหลายและครอบคลุมยิ่งขึ้นสำหรับ Memoji ในแอพข้อความ ไม่ว่าจะเป็นทรงผม อุปกรณ์สวมศีรษะ รวมถึงหน้ากากแบบใหม่ๆ และอีกมากมาย

-Siri ขยายขอบเขตความรู้เพื่อช่วยค้นหาคำตอบจากทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต อีกทั้งสามารถส่งข้อความเสียงได้ด้วย ส่วนการป้อนตามคำบอกบนคีย์บอร์ดก็จะทำงานอยู่ในตัวอุปกรณ์เมื่อผู้ใช้บอกให้พิมพ์ข้อความ โน้ต อีเมล และอื่นๆ4

-แอพแผนที่ช่วยให้การนำทางและสำรวจเมืองเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ อย่างเส้นทางการขี่จักรยาน และคู่มือแนะนำสถานที่ โดยเส้นทางการขี่จักรยานจะพิจารณาจากระดับความสูง ปริมาณรถบนท้องถนน และยังดูว่าในเส้นทางนั้นมีบันไดหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีคู่มือแนะนำสถานที่น่าสนใจสำหรับเมืองนั้นๆ ซึ่งคัดสรรมาจากแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือหลายแห่ง เรียกได้ว่าคู่มือนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีดีๆ ในการค้นพบร้านอาหารใหม่ที่กำลังมาแรง การค้นหาสถานที่น่าสนใจที่เป็นที่นิยม และการสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ที่แนะนำโดยแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับ เช่น AllTrails, Complex, The Infatuation, TimeOut Group, The Washington Post, และอื่นๆ

-แอพ Home ทำให้การควบคุมสมาร์ทโฮมง่ายยิ่งขึ้น เพราะมีคุณสมบัติใหม่ๆ อย่างการแนะนำการทำงานอัตโนมัติ และส่วนควบคุมในศูนย์ควบคุมที่ขยายเพิ่มเพื่อให้เข้าถึงอุปกรณ์เสริมและบรรยากาศต่างๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น ทั้งยังมี Adaptive Lighting สำหรับระบบแสงไฟที่รองรับ HomeKit ซึ่งจะคอยปรับอุณหภูมิสีให้เหมาะกับแต่ละช่วงของวันโดยอัตโนมัติ พร้อมด้วยการรู้จำใบหน้าในตัวอุปกรณ์ที่ทำให้กริ่งประตูบ้านแบบวิดีโอและกล้องที่รองรับสามารถระบุตัวตนของเพื่อนและครอบครัวได้5 นอกจากนี้แอพ Home และ HomeKit ยังออกแบบมาให้มีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว จึงมีการเข้ารหัสข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์เสริมภายในบ้านของผู้ใช้ตั้งแต่ต้นจนจบ

-Safari มีรายงานความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูการติดตามข้ามเว็บไซต์ที่ถูกบล็อคได้ง่ายๆ และมีการตรวจสอบความปลอดภัยของรหัสผ่าน ซึ่งจะเตือนให้ผู้ใช้ทราบเมื่อตรวจพบว่ารหัสผ่านที่บันทึกไว้อาจอยู่ในกลุ่มข้อมูลที่รั่วไหล อีกทั้งยังมาพร้อมคุณสมบัติการแปลภาษาทั้งหน้าเว็บไซต์อีกด้วย6

-คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงมาพร้อม Headphone Accommodations ที่จะขยายหรือลดเสียงในคลื่นความถี่หนึ่งเพื่อให้เสียงดนตรี ภาพยนตร์ โทรศัพท์ และพ็อดคาสท์คมชัดยิ่งขึ้น ส่วนการตรวจจับภาษามือใน FaceTime แบบกลุ่มก็จะทำให้เห็นภาษามือที่ใช้ในการโทรแบบวิดีโอได้ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม7 และตัวอ่านหน้าจอสำหรับผู้มีปัญหาด้านการมองเห็นระดับชั้นแนวหน้าของวงการอย่าง VoiceOver ก็สามารถบอกได้โดยอัตโนมัติว่าสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอคือภาพของอะไร ซึ่งช่วยให้ผู้คนอีกมากมายสามารถเข้าถึงแอพและเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น