เป็นเพราะไวรัสร้ายตัวจิ๋วโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 102 ราย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 2,169 ราย
นั่นจึงเป็นที่มาที่รัฐบาลได้ประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงตี 4 ทำให้ธุรกิจขนส่งพัสดุไปรษณีย์ต้องปรับตัวแบบ 360 องศา
ยิ่งไปกว่านั้นคำสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ในปริมาณที่สูงขึ้น เนื่องจากห้างสรรพสินค้าปิด พฤติกรรมการทำงานเปลี่ยนจากการเดินทาง เป็นการทำงานแบบ work from home
นั่นจึงเป็นที่มาที่ พัสดุไปรษณีย์ กองโตเป็นมหึมา จนโลกโซเชียลออกมาแชร์ข้อความว่า พัสดุไปรษณีย์ มีจำนวนมากแต่รายได้ไม่พอกับบุรุษไปรษณีย์ต้องแห่กันลาออก
ทำให้บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ออกมาประกาศ เรื่อง พนักงานลาออกไม่เป็นความจริง
จากกรณีที่มีการแชร์กันในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับพนักงานเคอรี่ลาออกจนทำให้พัสดุไม่ได้จัดส่งเป็นจำนวนมากนั้นบริษัทขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าว ไม่เป็นความจริง ปัจจุบัน เรายังมีพนักงานที่ปฏิบัติงานตามปกติจำนวนทั้งสิ้นกว่า 20,000 ชีวิต
ทั้งนี้ จากปริมาณพัสดุที่ต้องการจัดส่งเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เราได้เร่งดำเนินการแก้ไขโดยได้จัดทีมช่วยเหลือฉุกเฉินเข้าไปบริหารจัดการพัสดุที่คงค้างในคลังสินค้าแต่ละแห่งอย่างเร่งด่วน
บริษัทมิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและในขณะนี้พนักงานของเราทุกภาคส่วนได้เร่งมือดำเนินการเพื่อจัดส่งพัสดุให้ถึงมือผู้รับปลายทางโดยเร็วที่สุด และบริษัทได้ออกมาตรการในการจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้
1. พัสดุที่ส่งก่อนและภายในวันที่ 4 เมษายน 2563 เราจะดำเนินการจัดส่งให้ถึงมือผู้รับแล้วเสร็จภายในสัปดาห์ที่จะถึงนี้
2. จัดให้มีการจ้างงานเพิ่มกว่า 1,000 อัตรา เพื่อเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการทั้งในฝ่ายปฏิบัติการและ Call Centre รวมถึงการเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานอีกด้วย
3. ปรับเปลี่ยนระยะเวลาที่ใช้ในการจัดส่งสินค้าชั่วคราวจาก 1 วันเป็น 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละปลายทาง โดยบริษัทจะให้ความสำคัญกับ 1. อุปกรณ์ทางการแพทย์ และ สินค้าป้องกันเกี่ยวกับ COVID-19 และ 2. สินค้าที่มีวันหมดอายุ หรือมีระยะเวลาจำกัด ถูกจัดส่งก่อนสิ่งของอื่น
ทางบริษัทขอความร่วมมือลูกค้าที่มีความต้องการพัสดุด่วนไม่เดินทางมาที่คลังสินค้าเพื่อติดต่อรับพัสดุเอง เนื่องจากบริษัทต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญและปฏิบัติตามข้อกำหนดในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และเพื่อไม่เป็นการกีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ซึ่งจะทำให้ปฏิบัติงานได้ช้าลง ดังนั้น ทางบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าภายในบริเวณคลังสินค้า และพื้นที่โดยรอบ
สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากความต้องการจัดส่งพัสดุที่เพิ่มขึ้นทั้งอุตสาหกรรม เรากำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตามบริษัท และพนักงานทุกคนกำลังพยายามกันอย่างเต็มที่และสุดความสามารถเพื่อบรรลุความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าและขอยืนยันในการดำเนินงานโดยคำนึงถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญในสถานการณ์เช่นนี้ คือเราต้องช่วยให้ประเทศไทยและคนไทยก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน
ขณะที่ไปรษณีย์ไทย ปรับลดเวลาปิดบริการเป็น 19:00 น. สำหรับไปรษณีย์ ที่เปิดให้บริการนอกเวลาราชการ (เช่น ไปรษณีย์สามเสนใน ไปรษณีย์สำเหร่ ไปรษณีย์จรเข้บัว ไปรษณีย์นนทบุรี ไปรษณีย์ 24 ชั่วโมง เช่น ไปรษณีย์เดอะสตรีท รัชดาฯ ไปรษณีย์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปรษณีย์แม็กซ์แวลู หลักสี่ ศูนย์ไปรษณีย์ EMS หลักสี่ ฯลฯ)
ส่วนการนำจ่ายเป็นไปตามปกติ อาจมีผลกระทบบางพื้นที่ ซึ่งจะล่าช้าไม่เกิน 1 วัน
ขณะที่ BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ได้เพิ่มพนักงานทุกช่องทาง เช่น พนักงานส่งของ และ call center เพื่อส่งของและตอบคำถาม
ส่วนแฟลช เอ็กซ์เพรส ชี้แจงว่าเนื่องจากมาตรการควบคุมการระบาดโรค COVID-19 ซึ่งอาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการขนส่ง และส่งผลกระทบให้การจัดส่งพัสดุในบางพื้นที่ ล่าช้ากว่าปกติประมาณ 1-2 วันทำการ แต่มีช่องทางติดต่อ 3 ช่องทาง คอลเซ็นเตอร์,แฟนเพจ และ ไลฟ์แชท
ส่วน J&T เอ็กเพรส ปรับเวลาส่งใหม่
ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2563 เป็นต้นไป หน้าร้าสาขาของ J&T Express ทั่วประเทศ ปรับเวลารับพัสดุจนถึงเวลา 18.00 น.
คอลัมน์ Move On
โดย:คนท้ายซอย