ติวออนไลน์‘สแนปอาสค์’ ชูAIจับคู่‘คนเรียน-ผู้สอน’

28 มี.ค. 2563 | 02:15 น.

#สแนปอาสค์ เดินหน้ารุกบริการรูปแบบออฟไลน์ ชูจุดแข็งใช้ AI Matching ติวเตอร์และผู้เรียน ตอบโจทย์ความต้องการแบบ Personality ตั้งเป้าไตรมาส 2 เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

 

นายชวัล เจียรวนนท์ ซีอีโอ บริษัท สแนปอาสค์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันการให้บริการในฝั่งออนไลน์นั้นสแนป อาสค์สามารถจับตลาดได้แล้ว โดยมีอัตราการเข้าถึงนักเรียน 10% ของนักเรียนทั้งหมด ด้วยจุดแข็งในเรื่องของการจับคู่ (Matching) นักเรียนและติวเตอร์ที่ให้บริการแบบออนไลน์สู่การให้บริการในรูปแบบออฟไลน์ เนื่องจากปัจจุบันการหาติว เตอร์เพื่อสอนวิชาต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของกระดานฝากงาน (Job Board) ซึ่งค่อนข้างเป็นเรื่องยากในการค้นหา ซึ่งนักเรียนจะต้องเป็นผู้ติดต่อเอง และมีขั้นตอนยุ่งยาก อีกทั้งเมื่อได้ติวเตอร์แล้วบางทีไม่ตรงกับความต้องการก็จะต้องวนกลับมาที่กระบวนการค้นหาใหม่ แต่ถ้าสามารถสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีตัวเลือกให้เด็กก็จะทำให้สามารถค้นหาติวเตอร์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

 

 ติวออนไลน์‘สแนปอาสค์’  ชูAIจับคู่‘คนเรียน-ผู้สอน’

 

เด็กจะสามารถระบุได้ว่าต้องการติวเตอร์ที่มีคุณลักษณะแบบไหนและในทางฝั่งซัพพลาย เรามีข้อมูลต่างๆ ของติวเตอร์ตั้งแต่เข้ามาในระบบ โดยมีการสกรีนทั้งเรื่องของประวัติข้อมูลส่วนตัว ที่อยู่ ความรู้ความสามารถจากการสอบวัดระดับก่อนการสอนจริง ทั้งนี้ภาพรวมของผู้ใช้เห็นได้ชัดเจนว่ามีผลการเรียนที่ดีขึ้น ซึ่งสแนปอาสค์ ไม่ได้เข้าไปแตะในเรื่องของหลักสูตรการศึกษา ไม่ได้เจาะจงในเรื่องของแบบเรียน แต่การใช้งานแอพที่ง่ายจะทำให้เด็กอยากถาม กล้าถามและได้คำตอบ จะทำให้เด็กอยากเรียนรู้มากขึ้น


 

ขณะที่ถ้ามองในแง่ของความปลอดภัย สแนปอาสค์ เปิดให้บริการจองเฉพาะในพื้นที่สาธารณะไม่เป็นสถานที่ส่วนตัวอย่าง บ้าน หรือคอนโดฯ ซึ่งเด็กจะต้องเลือกโลเกชันเข้ามา สแนปอาสค์ จะมีระบบแชตที่สามารถพูดคุยกันได้เพื่อนัดแนะ และการตรวจสอบโลเกชันกับทางติวเตอร์ ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยมากที่สุดและบางส่วนก็เป็นความพึงพอใจของทั้ง 2 ฝ่ายด้วยเช่นกัน ซึ่งได้มีการทดสอบอย่างไม่เป็นทางการไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ได้มองเห็นฟีดแบ็กในระดับใหญ่มาก และยังต้องมีการพัฒนากันต่อไป ขณะที่ทางไต้หวันและฮ่องกงได้มีการเปิดตัวไปแล้วและเริ่มประสบความสำเร็จจึงตัดสินใจที่จะลองนำมาปรับใช้กับประเทศไทย

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มผู้เรียนหลักส่วนใหญ่ คือเด็กที่เรียนอยู่ในระดับปานกลาง ที่อยากพัฒนาตัวเอง แต่ไม่กล้าถามอาจารย์ในห้องเรียนเพราะไม่อยากดูไม่ฉลาดในสายตาเพื่อน ซึ่งเด็กกลุ่มนี้จะชอบ ใช้สแนปอาสค์มาก ส่วนใหญ่เด็กในกลุ่มนี้อยู่ในพื้นที่ตามหัวเมือง ใหญ่ โดยพฤติกรรมรูปแบบนี้ ในไทยจะค่อนข้างเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้วิชาที่ได้รับความนิยมที่เด็กเข้ามา สอบถามมากที่สุดคือ คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ เพราะเป็นวิชาที่ต้องการคำอธิบาย ขณะที่สถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นในตอนนี้จะเป็นโอกาสที่ดีในเรื่องของการเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะการเรียนตัวต่อตัวแบบออฟไลน์อาจยังทำไม่ค่อยได้เห็นจากประเทศอื่นที่มีผู้เรียนผ่านสแนปอาสค์ บนช่องทาง ออนไลน์เพิ่มขึ้น 20-30% ในช่วงนี้

 

หน้า 26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,559 วันที่ 22-25 มีนาคม 2563