คอลัมน์ Move ON
โดย คนท้ายซอย
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ซึ่งตั้งอยู่ในซอยสายลม ได้ปักหมุดให้ผู้สมัครชิงเก้าอี้รองเลขาธิการและผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. มาแสดงวิสัยทัศน์เป็นมั่นเป็นเหมาะ
แต่สุดท้ายต้องเจอโรคเลื่อนจากกำหนดการเดิม คือ วันพุธที่ 18 มีนาคม เป็นวันที่ 24 มีนาคม 2563
ทำให้บรรดาผู้สมัครรองเลขาธิการ จำนวน 6 คน และ ผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. อีกจำนวน 15 คน อุตส่าห์เตรียมพร้อมจัดหนักจัดเต็มหวังโชว์วิชันเป็นอันต้องรอเก้อ
แม้นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ระบุในประกาศถึงเหตุผลเลื่อนสรรหาในครั้งนี้ว่าคณะกรรมการ กสทช.ติดภารกิจ
ถามว่า? ติดภารกิจจริงหรือ..คำตอบไม่น่าเป็นอย่างที่คิด
คนในสำนักงาน กสทช.รู้ดีว่าเลื่อนสรรหาครั้งนี้เพราะอะไร หากดูไทม์ไลน์แล้วผลของโรคเลื่อนที่มีน้ำหนักสุด น่าจะมาจากบอร์ดท่านหนึ่งเดินทางไปประเทศสุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ดันปฏิเสธการวัดไข้ คัดกรองก่อนเข้าที่ทำงาน เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา มิหนำซ้ำยังเรียกอนุกรรมการกิจการกระจายเสียงประชุม 2 ชุดอีกด้วย
“วันนั้นมีแต่เสียงอื้ออึงทำไมบอร์ดท่านนั้นไม่ยอมรับผิดชอบกักตัวเองจนหัวค่ำ สำนักงาน กสทช.รีบโทรแจ้งสาธารณสุขพ่นยาฆ่าเชื้อตั้งแต่ชั้น 1 ยันชั้น4”
คล้อยหลังเพียง 1 วัน สำนักงาน กสทช.ออกประกาศมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ฉบับที่ 3 ให้ผู้ปฏิบัติงานที่เดินทางผ่านพื้นที่เสี่ยงติดโรคตามประกาศของสำนักงานกสทช. หรือมีเหตุสงสัยว่าติดเชื้อ ให้ผู้นั้นปฏิบัติงานในที่พัก 14 วันโดยไม่ถือเป็นวันลา ให้ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการสำนักมอบหมายงาน และกำหนดตัวชี้วัด ผู้พักปฏิบัติงานที่บ้านต้องรายงานการตรวจสุขภาพตามแนวทางของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากจำเป็นต้องออกจากที่พักต้องขออนุญาตผู้บังคับบัญชาก่อน เป็นต้น รวมทั้งให้ขยายเวลามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด-19 จากเดิมวันที่ 19 เมษายน 2563 ให้ขยายออกไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563
ถัดจากนั้นวันศุกร์ที่ 13 มีนาคม ได้พ่นยาฆ่าเชื้ออีกรอบ แต่ครั้งนี้พ่นยา ณ ตึกอำนวยการ อาคาร2 ,อาคารจอดรถ,อาคาร3 และอาคาร4
จึงมีคำถามว่าเลื่อนสรรหารองเลขาธิการ และ ผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช.ครั้งนี้คณะกรรมการติดภารกิจหรือโดนพิษไวรัสจากใครบางคนที่ไม่ยอมกักตัว?