ดีแทค เปิดตัวเซ็กเมนต์ใหม่ Platinum Blue Member ชูบริการ ‘dtac Reward’ เรียกคืนความเชื่อมั่น พร้อมสานต่อคอนเซ็ปต์ “จะไม่หยุด”
นายฮาว ริเร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทคได้วางกลยุทธ์หลัก 3 ข้อ สำหรับการปรับเพิ่มกลุ่มลูกค้าของดีแทค รีวอร์ด ครั้งนี้คือ ต้องการสร้างตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งให้กับดีแทค รีวอร์ด สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ดีแทคกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2563 นี้ ดีแทคได้ปรับกลยุทธ์ในการดูแลลูกค้าให้มากขึ้น รวมถึงเปิดตัวเซ็กเมนต์ใหม่ Platinum Blue Member ชูบริการล้างรถฟรีพร้อมที่จอดรถในห้างสรรพสินค้า 64 แห่ง และแคมเปญ “ตามใจปากทุกวันศุกร์” ซึ่งดีแทค รีวอร์ดนั้นเป็นกลยุทธ์ CRM ที่สำคัญที่จะช่วยลดยอดการยกเลิกบริการออกจากระบบ (Churn) ทำให้ลูกค้าอยู่กับดีแทคนานขึ้น รวมถึงทำให้เกิดการบอกต่อ ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการเข้ามาของลูกค้าเพิ่มขึ้น สามารถสร้างแบรนด์ลอยัลตีได้มากกว่าลูกค้าที่ไม่ใช้สิทธิ
ด้านนางสาวเพ็ญพงา สุทธิมณฑล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารลูกค้า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันดีแทคมีลูกค้าในระบบทั้งหมดกว่า 20.4 ล้านราย ทั้งรายเดือนและเติมเงิน โดยแบ่งออกเป็น 4 เซ็กเมนต์ คือ Welcome Member 7.5 ล้านราย , Silver Member 10 ล้านราย ,Gold Member 2.5 ล้ายราย และ Platinum Blue Member จำนวน 5 แสนราย เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ราว 3 แสนราย จากการปรับเกณฑ์ในเรื่องของค่าบริการรายเดือนที่เดิมกำหนดเกณฑ์การใช้งานมากกว่า 2,000 บาทต่อเดือนเหลือเพียงเดือนละ 1,000 บาท ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาดีแทค รีวอร์ด มียอดผู้ใช้งานกว่า 24 ล้านครั้ง และจำนวนร้านค้าที่ร่วมกับดีแทคกว่า 30,000 ร้านค้าทั่วประเทศ
"สำหรับกรณีของการลาออกของ นางอเล็กซานดรา ไรซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค ที่จะมีผลในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ดีแทคยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก โดยให้คำมั่นสัญญากับลูกค้าว่าจะไม่หยุดพัฒนาโครงข่ายและการให้บริการ ตอนนี้ดีแทคมุ่งเน้นไปที่เรื่องของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยคอนเซ็ปต์ “จะไม่หยุด” ยังคงดำเนินต่อไป ดีแทคเห็นผลของการพัฒนาเครือข่ายจากฟีดแบ็กของลูกค้าที่ดีขึ้น ข้อร้องเรียนที่ลดลง โดยการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารที่เกิดขึ้นนั้นมีแผนรองรับ ซึ่งที่ผ่านมาคุณอเล็กซานดร้าได้นำพาองค์กรในช่วงเปลี่ยนผ่านทำให้องค์กรกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง" นายฮาวริ เร็น กล่าว