ไอทีโตสวนกระแส ธุรกิจแห่ลงทุน 7.5 แสนล้าน

22 ม.ค. 2563 | 04:40 น.

 

อานิสงส์ผันผวนการเมือง เศรษฐกิจโลกถดถอย หนุนองค์กรลงทุนไอทีเพิ่มขึ้น 2 เท่า รับมือการเปลี่ยนแปลงการ์ทเนอร์ คาดการณ์แนวโน้มการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกปี 2563 สูงถึง 3.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเพิ่มขึ้น 3.4% จากปีที่ผ่านมา และคาดว่าในปี 2564 แนวโน้มการใช้จ่ายจะเพิ่มเป็น 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

นายจอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย บริษัท การ์ทเนอร์ อิงค์ฯ เปิดเผยว่าแม้ความผันผวนทางการเมืองจะส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่ผลจากความไม่แน่นอนของตลาดโลก กลับทำให้ภาคธุรกิจหันมาเพิ่มการลงทุนด้านไอทีเป็น 2 เท่า เนื่องจากพวกเขาคาดว่าธุรกิจจะมีรายได้เติบโตมากขึ้น แต่รูปแบบการใช้จ่ายจะเปลี่ยน แปลงไปอย่างต่อเนื่อง

 

ซอฟต์แวร์จะเป็นตลาดหลักที่เติบโตรวดเร็วสุดในปีนี้ในระดับเลข 2 หลักที่ 10.5% กลุ่มตลาดซอฟต์แวร์ที่ใช้ในระดับองค์กรเกือบทั้งหมดจะใช้บริการในรูปแบบ Software as a Service (SaaS ) อย่างไรก็ตาม คาดว่ามูลค่าการใช้จ่ายซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบคลาวด์ก็ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในอัตราที่โตช้าลง แนวโน้มการใช้จ่ายด้าน SaaS จะเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันการซื้อซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ก็ยังคงมีอยู่รวมถึงขยายการใช้งานออกไปจนถึงปี 2566

 

ไอทีโตสวนกระแส ธุรกิจแห่ลงทุน 7.5 แสนล้าน

 


 

 

สำหรับประเทศไทย คาดว่ามูลค่าการใช้จ่ายทางด้านผลิตภัณฑ์และบริการไอทีในปี 2563 จะสูงกว่า 7.52 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากปี 2562 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.72 แสนล้านบาท ในปี 2564 โดยซอฟต์ แวร์องค์กรจะเป็นเทคโนโลยีที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุด และบริการด้านการสื่อสารของโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์มือถือ ทั้งเสียงและดาต้าเป็นเทคโนโลยีที่จะมีการลงทุนมากที่สุดในประเทศไทย

 

การใช้จ่ายด้านไอทีองค์กร ที่ใช้บริการผ่านระบบคลาวด์จะมีอัตราการเติบโตเร็วกว่าการบริการไอทีในแบบเดิม (noncloud) ไปถึงปี 2565 องค์กรที่ใช้งบประมาณไอทีส่วนใหญ่กับระบบคลาวด์ แสดงให้เห็นถึงโมเดลการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ที่จะเกิดและหลากหลายมากขึ้น

 

ไตรมาสที่ผ่านมาเราได้เปิดตัวความท้าทายที่หลายองค์กรต้องเผชิญในด้านการ ลดต้นทุนต่างๆ และการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโต สภาพแวดล้อมของระบบคลาวด์ที่เติบโตจนถึงขีดสุดเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ช่วยบรรเทาปัญหานี้: องค์กรสามารถคาดหวังผลตอบ แทนจากการลงทุนระบบคลาวด์ ได้มากขึ้น ทั้งประหยัดต้นทุน ความคล่องตัวและนวัตกรรมรวมถึงความปลอดภัยที่ดีขึ้น โดยแนวโน้มการใช้จ่ายด้านนี้จะดำเนินต่อไป

 

 

กระแสความผันผวนจากค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งกลายเป็นอุปสรรคต่อการใช้จ่ายด้านไอทีในส่วนของดีไวซ์และอุปกรณ์สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศที่ได้รับผลกระทบเช่น การใช้จ่ายกับโทรศัพท์มือถือในญี่ปุ่นจะลดลงในปีนี้เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยในประเทศที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งขึ้น ขณะที่มูลค่าการใช้จ่ายในเครื่องพีซี เครื่องพิมพ์ เซิร์ฟเวอร์ หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์สำรองข้อมูล ก็คาดว่าจะลดลงประมาณ 3% เช่นกันนายเลิฟล็อค กล่าวเพิ่มเติม

 

แม้ไตรมาสที่แล้วตลาดอุปกรณ์ดีไวซ์จะมีการเติบโตตํ่าสุดหากนับรวมในทุกกลุ่ม แต่มันจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 2563 เนื่องจากแนวโน้มความนิยมของการซื้อเครื่องใหม่ที่มีราคาถูกกว่าจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่ มูลค่าการใช้จ่ายของอุปกรณ์ดีไวซ์จะเพิ่มขึ้นเกือบ 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในประเทศจีนและตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เพียงพอสำหรับชดเชยแนวโน้มที่เกิดขึ้นในตลาดยุโรปตะวันตกและตลาดลาตินอเมริกาที่ลดลงนายเลิฟล็อค กล่าวสรุป

 

หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,541 วันที่ 19-22 มกราคม 2563