แนะพัฒนาทักษะ 5 ด้าน รับมือ AI แย่งงานมนุษย์

18 ม.ค. 2563 | 05:30 น.

สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศ ไทย แนะเร่งพัฒนาทักษะ 5 ด้าน รับมือ AI กำลังพัฒนาทดแทนแรงงานมนุษย์บาง อาชีพกำลังหายไป ระบุเทรนด์งานโลกยุคใหม่ ที่มุ่งเน้นความสร้างสรรค์เพิ่มมูลค่าของสินค้า .ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง อาจารย์ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์และการสื่อ สาร สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะนายกสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศ ไทย (AI) เปิดเผยว่า AI กำลังถูกพัฒนาและมีผลทำให้ทักษะบางอาชีพค่อยๆ หายไป แต่ขณะเดียวกัน AI ก็เปิดประตูแห่งโอกาสอีกบานออก ฉะนั้นการอยู่รอดในยุค AI จึงขึ้นอยู่กับตัวของเราเอง ที่จะต้องมีทักษะสอดคล้องกับความเปลี่ยน แปลงของโลก ซึ่งจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

 

แนะพัฒนาทักษะ 5 ด้าน  รับมือ AI แย่งงานมนุษย์

 

เทรนด์งานในโลกยุคใหม่จะเน้นความสร้าง สรรค์ เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่เครื่องจักรผลิตออกมาเป็นมาตรฐานเดียวกัน การทำงานจึงจะไม่ใช่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมแบบเดียวกันหมด หากแต่จะมีลักษณะเป็นหน่วยย่อยเป็นธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) สตาร์ตอัพ ซึ่งเชื่อมต่อกันผ่านเทคโนโลยี มีความคล่องตัวสูง พร้อมจะปรับเปลี่ยนได้ทุกสถานการณ์


 

ดังนั้นทักษะที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ อาจจัดเป็นหมวดกว้างๆ ได้แก่ 1. ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creativity Skill) คือสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่มีมาประยุกต์และสร้างเป็นไอเดียจำนวนมาก ซึ่งต้องใหม่และสามารถใช้แก้ปัญหาที่แต่ละธุรกิจเจอได้ 2. ทักษะการ บูรณาการเทคโนโลยี (Integration Skill) ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี แอพพลิเคชันที่มีหลากหลาย กระจัดกระจาย มาหลอมรวมเพื่อสร้างสิ่งใหม่ได้ สามารถมองเป็นคอนเซ็ปต์ที่ตอบสนองทั้งเทคโนโลยี การตลาด และประโยชน์ของสังคม 3. ทักษะแบบอ่อน (Soft Skill) ซึ่งเน้นไปในทางการสื่อสาร การปรับตัว การแก้ปัญหาที่มีความสลับซับซ้อน ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ซึ่งช่วยให้ย่อยข้อมูลจำนวนมากได้ โดยต้องรู้จักตั้งคำถามเชิงวิเคราะห์ ตีความ ประเมินทางเลือกและตัดสินใจ 4. ทักษะการคิดแบบกลยุทธ์เพิ่มมูลค่า (Value-Added Development Skill) ทำสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้น สร้างสรรค์ขึ้น สร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ และ 5. ทักษะการสร้างความสุข (Well-Being Skill) ที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข โดยทักษะทั้งหมดนี้สามารถประยุกต์เข้ากับทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นในสายเทคโนโลยี การบริการ การท่องเที่ยว การทำธุรกิจ

สิ่งที่ต้องเข้าใจเป็นลำดับแรกก็คือ AI มีการทำงานหลายรูปแบบ อาจแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ 1. รูปแบบการทำงานแบบอัลกอริธึม (Algorithm) ซึ่งเป็นกระบวนการนำเข้าและหาผลลัพธ์ที่เป็นขั้นตอนชัดเจน 2. การทำงานแบบเทคโนโลยีเสริมศักยภาพของมนุษย์ (Augmentation) ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับมนุษย์และเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดระยะเวลาการทำงานลง 3. การทำงานแบบอัตโนมัติ (Autonomy) ซึ่ง AI จะมีบทบาทแทนที่มนุษย์ คือสามารถตัดสินใจแทนมนุษย์ได้ทั้งหมด

ทุกวันนี้ ทั่วโลกยังคง ใช้งาน AI ใน 2 ประเภทแรก  ส่วนการให้ AI เข้ามามีส่วนในการตัดสินใจแทนมนุษย์หรือทำงานแทนมนุษย์ทั้งหมดนั้น คงต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร.ดร.ธนารักษ์ ระบุ

แม้ว่าขณะนี้บทบาทของ AI จะทำหน้าที่หนุนเสริมการทำงานของมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ หากแต่จุดแข็งของ AI อันประกอบด้วย ความชัดเจน ความแม่นยำ และการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ได้ส่งผลกระทบต่อแรงงานมนุษย์ โดยเฉพาะในกลุ่มงานที่ต้องทำอย่างซํ้าๆ และประมวลผลไม่ซับซ้อน

แน่นอนว่า ประตูที่กล่าวถึงข้างต้นกำลังถูกปิดลง แต่ประตูอีกบานกำลังค่อยๆ ถูกแง้มออก โดยโอกาสที่เปิดกว้างในยุค AI คืองานที่มีลักษณะการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ใช้ทักษะทางสังคมทักษะด้านจิตวิทยา การอธิบาย การประสานงาน การตัดสินใจ การประเมินและวิเคราะห์ระบบ การใช้เหตุผล ตลอดจนการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน

 

หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,540 วันที่ 16-18 มกราคม 2563