โลจิสติกส์ข้ามชาติรุกหนักไปรษณีย์ไทยน่าเป็นห่วง

14 ธ.ค. 2562 | 01:41 น.

กลุ่มทุนข้ามชาติปรับกลยุทธ์ชิงเค้กก้อนโตมูลค่ากว่า 3.2ล้านล้านบาท

    "อย่าไปกลัว" นั้นคือคำพูดของ นางสมร เทอดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท ซึ่ง “เธอ” กำลังจะหมดวาระในวันที่ 14 มกราคม 2563 

   ถือว่าช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของ ปณท ก็ว่าได้ เนื่องจากอยู่ในช่วงกระบวนการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ 

    แม้เปิดสรรหาก๊อกแรกไปหนึ่งรอบแต่ก็ยังไม่ลงตัว จำใจต้องเปิดอีกรอบเพื่อรอใคร? หรือไม่ก็ต้องลุ้น

    แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงของ ปณท ในห้วงเวลานี้ คือ กลุ่มทุนข้ามชาติ เข้ามาปักธงรบ และ ปรับกลยุทธ์ธุรกิจ แบบ 360 องศา

    แม้ในปี 2561 กำไรสุทธิอยู่ที่ 3,8275.54 ล้านบาท ปัญหา คือ กำไรลดลงจากปีที่ผ่านมาทำได้ 4,212 ล้านบาท ทำให้ยิ่งต้องน่าคิด

โลจิสติกส์ข้ามชาติรุกหนักไปรษณีย์ไทยน่าเป็นห่วง           ถามว่า? เป็นห่วงอย่างไร ก็เพราะ ปณท มีข้อจำกัดแม้จะแปรสภาพแต่ยังอยู่ในฐานะที่ยังเป็นรัฐวิสาหกิจ ที่สำคัญถูกกำกับโดยกลุ่มก๊วนการเมือง

 

โลจิสติกส์ข้ามชาติรุกหนักไปรษณีย์ไทยน่าเป็นห่วง

 

**ลาซาด้า เกทับ ปณท เปิดศูนย์คัดแยก

     แม้ก่อนหน้านี้ ปณท นำร่องเปิดศูนย์เครื่องคัดแยกพัสดุอัตโนมัติ ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับปริมาณงานที่มากขึ้น เฉลี่ยทั่วประเทศ 8 ล้านชิ้นต่อวัน โดยนำร่องทดสอบที่ศูนย์ไปรษณีย์ศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีปริมาณการส่งพัสดุและจดหมายประมาณ 700,000 ชิ้นต่อวัน ก่อนจะขยายไปยังศูนย์ไปรษณีย์อีก 15 แห่งภายในปี 2565 

โลจิสติกส์ข้ามชาติรุกหนักไปรษณีย์ไทยน่าเป็นห่วง

   สำหรับเครื่องคัดแยกพัสดุ สามารถคัดแยกกล่องได้ถึง 9,000 ชิ้นต่อชั่วโมง โดยมีช่องคัดแยก 77 ปลายทาง ส่วนเครื่องคัดแยกจดหมาย สามารถคัดแยกซองได้ประมาณ 8,000 ชิ้นต่อชั่วโมงและมีช่องคัดแยกถึง 90 ปลายทาง โดยการทำงานของเครื่องคัดแยกอัตโนมัติ จะทำให้การคัดแยกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และลดปัญหากล่องหรือซองชำรุดเสียหาย สูญหาย หรือส่งผิดปลายทาง

*** ทุ่มงบ 1,000 ล้าน

       แต่ล่าสุดนี้สิน่าคิดเมื่อ บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย ร่วมกับ ลาซาด้า เอ็กซ์เพรส เปิดศูนย์คัดแยกสินค้า (Lazada Express SSW Sortation Centre) ทุ่มงบก้อนโตไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

    ที่สำคัญศูนย์คัดแยกแห่งนี้ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 35,000 ตร.ม. ในย่านสุขสวัสดิ์ จังหวัดสมุทรปราการ จากเดิมมีศูนย์คัดแยกในประเทศอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย และ เวียดนาม

   เหตุผลที่ตั้งศูนย์คัดแยกก็เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ในประเทศไทย รวมไปถึงการจัดส่งสินค้า Cross Border กลุ่มสินค้าที่ถูกนำส่งมาจากประเทศจีน

**ชูจุดรับสินค้า 800 แห่ง

   ภายในศูนย์คัดแยกสินค้าแห่งนี้ ได้นำเอาเทคโนโลยีระบบคัดแยกสินค้าอัตโนมัติหลากหลายรูปแบบที่ทันสมัยที่สุดมาใช้ จึงทำให้การคัดแยกสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

     นอกจากนี้ ลาซาด้า เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย มีจุดบริการรับสินค้าจากผู้ประกอบการหรือจุดบริการรับสินค้า (Drop-off Point) ที่มีอยู่กว่า 800 แห่งทั่วประเทศไปยังศูนย์คัดแยกสินค้า รวมทั้งการขนส่งอีกด้วย

โลจิสติกส์ข้ามชาติรุกหนักไปรษณีย์ไทยน่าเป็นห่วง

***เคอรี่ ผนึก ควิก เซอร์วิส

         ก่อนหน้านี้เคอรี่ เอ็กซ์ เพรส ผนึก ควิก เซอร์วิส ไปรษณีย์เอกชนมีสาขา 400 จุด ขณะที่ เคอร์รี่ มีจำนวน 5,500 จุด 

   เหตุผลที่จับมือกับควิก เซอร์วิส เป็นเพราะ เคอรี่ ต้องการลดต้นทุนในการขยายจุดบริการทำให้มีจุดบริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ

     ที่สำคัญคู่แข่งทางธุรกิจไม่ได้จำกัดไปรษณีย์ไทยรายเดียวเท่านั้น แต่ยังแข่งกับกลุ่มทุนข้ามชาติอย่างอาลีบาบา , กลุ่มทุนจากฮ่องกง และ ญี่ปุ่น อีกด้วย

   โลจิสติกส์ข้ามชาติรุกหนักไปรษณีย์ไทยน่าเป็นห่วง    

     เป็นเพราะยอดส่งอี-คอมเมริซ์ ในปี2561 มีมูลค่า 3.2 ล้านล้านบาท ปีนี้มูลค่ายอดส่งเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

    ที่สำคัญการแข่งขันปีนี้ยิ่งรุนแรงบรรดาโลจิสติกส์ปรับกลยุทธ์ทั้งเรื่องศูนย์คัดแยก ทั้งสาขา และ ความเร็วในการส่งสินค้า

    ดังนั้นใน ปี2020 การแข่งขันจะยิ่งมากกว่านี้เสียด้วยซ้ำ ที่น่าเป็นห่วงไปรษณีย์ไทย ที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน จะปรับยุทธศาสตร์ทางธุรกิจสู้ศึกกับทุนข้ามชาติเหล่านี้ได้มากแค่ไหนน่าติดตามยิ่ง

คอลัมน์:Move ON

โดย:คนท้ายซอย