คอลัมน์ Move On
โดย: คนท้ายซอย
ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดประมูล5G ในย่านความถี่ 700 MHz,1800 MHz,2600 MHz และ 26GHz
ขนาด 5G ยังไม่เปิดให้บริการ ธุรกิจถูกดิสรัปชั่นจากระบบ 4G ไปหลายราย
แล้วถ้า 5G แจ้งเกิดเต็มรูปแบบ ธุรกิจจะโดนดิสรัปชั่นไปมากกว่าระบบ 4G เสียด้วยซ้ำ
เพราะ 5G มีความเร็วประมาณ 1 Gbps หรือมากกว่า 4G เป็น 100 เท่า รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลมากกว่า 1 ล้านอุปกรณ์ต่อตารางกิโลเมตร
สิ่งที่เกิดขึ้น คือ อุตสาหกรรมเกิดการเปลี่ยนแปลง ทุกคนสามารถทำงานได้ทุกที่ ทำธุรกิจ และ ขายของออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง
ในด้านสาธารณสุข จะเกิดแพทย์ทางไกลจากเดิมผู้ป่วยที่ไม่สบายต้องมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล แต่ 5G จะทำใ ห้เกิดการรักษาทางไกล หรือ Telehealth ผู้ป่วยจึงไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล เพราะแพทย์สามารถคัดกรองโรค ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว
ด้านการเกษตร 5G ส่งผ่านข้อมูลความรู้ไปสู่เกษตรกร และยังช่วยพัฒนาระบบเช็นเซอร์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการตรวจวัด ปริมาณน้ำ ความชื้นในอากาศได้แม่นยำมากขึ้น
ขณะที่ด้านอุตสาหกรรม สามารถต่อยอดพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ และ อากาศยานไร้คนขับ เป็นต้น
ความท้ทายของ 5G ที่ตามมานั่นก็คือ โรงเรียนและสถาบันการศึกษา ต้องปรับตัวเปลี่ยนการสอนเป็นระบบออนไลน์
ห้างสรรพสินค้าต้องเปลี่ยนรูปแบบการค้าเป็นอี-คอมเมริซ์ และ ธนาคาร ปิดสาขาเพื่มขึ้นผลจากการทำธุรกรรมการเงินบน Mobile Banking
แม้ 5G กำลังมาปฏิวัติอุตสาหกรรมมีธุรกิจใหม่เกิดขึ้น และมีการประเมินว่าในปี2578 สร้างมูลค่าเพิ่ม 2.3 ล้านล้านบาท
ดังนั้น ถ้าธุรกิจดั้งเดิมไม่ปรับตัวถูกดิสรัปชั่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นเดียวกัน