จับแล้ว!“ Hack Group Line”

13 พ.ย. 2562 | 08:03 น.

    ผู้สื่อข่ารายงงาน(13 พ.ย.) นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท แถลงข่าวจับกุมดำเนินการปฏิบัติการตามล่า “LINE Group Hacker” ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2562 ได้จับกุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1540/2562 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2562 ได้ที่ซอยบุปผาบุรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. พร้อมตรวจ ยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่ง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและส่งของกลางตรวจพิสูจน์เพื่อทำการขยายผลไปยังผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป

จับแล้ว!“ Hack Group Line”

  ต่อมาเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 มีผู้ต้องหามามอบตัวอีก 1 ราย รวมมีผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันทั้งหมด 2 ราย พฤติการณ์ในการคดี: ผู้ต้องหาในคดีนี้ได้นำโปรแกรมสร้างลิงค์ดูดข้อมูลกลุ่มไลน์ เมื่อสร้างลิงค์ ไลน์แล้วและมีผู้ใช้งานกดลิงค์ไลน์ดังกล่าว จะถูกดูดข้อมูลลิงค์เชิญเข้ากลุ่มไลน์ เมื่อผู้ต้องหาได้ข้อมูลลิงค์ เชิญเข้ากลุ่มไลน์แล้ว จะส่งผู้ใช้งานไลน์นิรนามเข้ากลุ่ม และแชร์เว็บไซต์ลักษณะลามก ซึ่งแฝงโฆษณา ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 5 มาตรา 7 มาตรา 12 “เข้าถึงโดย /มิชอบ ... กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี Technology Crime Suppression Division มิชอบซึ่งระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศฯ” มีอัตรา โทษสูงสุด จำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท , มาตรา 11 ความผิดเกี่ยวกับสแปม “ส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข” มีอัตราโทษสูงสุด 100,000 บาท และมาตรา 14(5) “เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามกฯ” มีอัตราโทษสูงสุด จำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนท่านใดเผลอกดลิงค์เว็บไซต์ดังกล่าว ให้ทำการตรวจสอบในแอพลิเคชั่นไลน์ ได้ที่ การตั้งค่า>บัญชีผู้ใช้งาน>อุปกรณ์ที่เข้าสู่ระบบ หากอุปกรณ์ใดที่ท่านไม่เคยใช้งานมาก่อน ให้ทำการออกจากระบบ (Log Out) และหากประชาชนท่านใดพบผู้ใช้งานไลน์นิรนามเข้ากลุ่มไลน์และเผยแพร่ส่งต่อ ข้อมูลลักษณะดังกล่าว ท่านสามารถแจ้งเบาะแสมายัง “ศูนย์ต่อต้านความปลอม” (Anti Fake News Center)

จับแล้ว!“ Hack Group Line”

   อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) จากสรุปผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมมีจำนวนข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 7,962 ข้อความซึ่งมีข้อความที่ต้องดำเนินการ Verify ทั้งหมดจำนวน 45 ข้อความ โดยแบ่งเป็น ช่องทาง Social Listening Tool ช่องทาง Line Official ช่องทาง Website Manual Social Listening ซึ่งมาจากการแจ้งเรื่องเข้ามาด้วย 

จับแล้ว!“ Hack Group Line”

  โดยแบ่งได้ดังนี้ เรื่องยาเสพติด 7.6 % ภัยพิบัติ 13.6 % การเงิน หุ้น 13.6 % ข่าวอื่น ๆ 13.6 % ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 21.2 % ความสงบเรียบร้อย และความมั่นคง 15.2 % นโยบายรัฐบาล 16.7 %

 

  ส่วนใหญ่จะพบเรื่องที่เป็นกระแสของสังคม และมีความน่าเป็นห่วงพี่น้องประชาชน คือพบมากที่สุดจะเป็นเรื่องของกลุ่มข่าวผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพที่อ้างการรักษาต่างๆ โดยไม่เคยถูกขึ้นทะเบียนยา แอบอ้างสรรพคุณการรักษาต่างๆ ซึ่งควรให้ประชาชนรับรู้และทราบดังนี้ จากการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย.การขายยาที่ยังไม่ได้รับอนุญาติให้ขายและยังไม่ได้รับอนุญาติให้โฆษณามีความผิด และหากมีการโฆษณาขายยา จะต้องขออนุญาตก่อน พร้อมเตือนผู้บริโภคควรระวังการซื้อยาจากเว็บไซต์ อาจมีการโฆษณาสรรพคุณเกินจริงเพราะเสี่ยงอันตราย ทั้งอาจได้รับยาปลอม ยาไม่มีคุณภาพ และผลข้างเคียงจากยาอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิติได้ การขายยาต้องได้รับการอนุญาติก่อน เนื่องจากยาไม่ใช่สินค้าทั่วไป ต้องขายในสถานที่อนุญาต การขายยาบนอินเตอร์เน็ตที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าข่ายกระทำความผิด อาจต้องระวังโทษจำคุก 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท และอาจเข้าข่ายผิดโฆษณายาอีก การโฆษณายาโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท ในส่วนนี้ มี พ.ร.บ.ที่ควบคุมอยู่คือ พ.ร.บ. อาหาร และ พ.ร.บ. ยา