แนะรุกดิจิทัลแพลตฟอร์ม ‘พิเชฐ’ฝากรัฐบาลใหม่สานต่อไทยแลนด์4.0
“พิเชฐ” อวดผลงาน 3 ปี เปลี่ยนผ่านโครงสร้างพื้นฐานประเทศก้าวสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ ด้วยหลักเท่าเทียม-แข่งขันและพัฒนา
ถึงแม้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองจากรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ไปสู่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แม้ตอนนี้กำลังฝุ่นตลบการฟอร์มทีมรัฐบาลใหม่
แต่ดูเหมือนว่าบรรดารัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งจาก คสช. ต่างทิ้งทวนอนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ไล่เลียงตั้งแต่ ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินมูลค่า 149,650 ล้านบาท ครม. และ การก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทาง บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหารและนครพนม มูลค่าก่อสร้าง 6.6 หมื่นล้านบาท
นอกเหนือจากนี้ บางกระทรวงที่ไม่มีโครงการขนาดใหญ่นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. หากแต่ในเมื่อจะลาจากตำแหน่งรัฐมนตรี เสนอผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ต่อ สาธารณชน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี
พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์
โดยนายพิเชฐ ดรุงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ได้ถ่ายทอดผลงานความสำเร็จให้กับคณะทูตานุทูตประจำประเทศไทยกว่า 20 ประเทศ พร้อมโชว์ผลงานรัฐบาลด้านการผลักดันและส่งเสริมการพัฒนาดิจิทัลให้ระบบเศรษฐกิจและ สังคมในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในงานที่ชื่อว่า Digital Thailand: From Endgame 2 Startup เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ดิจิทัลไทยแลนด์ อาศัยหลักการสำคัญ 3 ประการ คือ ความทั่วถึงเท่าเทียม (Inclusiveness) การพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness) และการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability)
อย่างไรก็ตามการขับเคลื่อนให้เกิดผลสู่ความสำเร็จของหลักการทั้ง 3 ประการ ได้นำมาใช้อย่างสมํ่าเสมอผ่านมาตรการทางด้านดิจิทัลต่างๆ ทั้ง 5 ด้าน เสมือนหนึ่งการสร้างโครงสร้างหลักของบ้านที่เรียกว่า ดิจิทัลไทยแลนด์ 5 ประการ ที่เรียกว่า “SIGMA” อันได้แก่ 1. Security การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ 2. Infrastructure โครง สร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัล 3. Government การสร้างรัฐบาลดิจิทัล 4. Manpower การสร้างกำลังคนทางด้านดิจิทัล และ 5. Application การพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมและการประยุกต์ใช้ทางด้านดิจิทัล
นอกเหนือจากนี้มีการจัดตั้งทั้งองค์กรใหม่ๆ ที่มีความสำคัญ มาคู่กับกฎหมายที่มีความจำเป็นและมีความสำคัญในโลกสมัยใหม่ ทั้งการจัดตั้งสำนักงานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สร้างระบบการดูแลมาตรฐานของข้อมูลและการเชื่อมต่อข้อมูลภาครัฐ สถาบันด้าน IoT ระบบดาวเทียมในอนาคต การจัดทำแผนแม่บทดิจิทัลของอาเซียน และการ สร้างแพลตฟอร์ม ฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์ทางด้านไซเบอร์ เมืองอัจฉริยะ สภาดิจิทัลฯ เป็นต้น
“ความร่วมมือ 3 ประสาน จากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จะให้การขับเคลื่อนการพัฒนาเป็นไปอย่างมีพลังอย่างแท้จริง”
นายพิเชฐ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านกฎหมาย ดิจิทัลแพลตฟอร์ม และองค์กรใหม่ จะช่วยให้การส่งต่องานจากรัฐบาลชุดปัจจุบันสู่รัฐบาลใหม่ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนาต่อไป เพื่อท้ายที่สุดประเทศไทยจะเดินไปสู่จุดที่เป็นเป้าประสงค์ นั่นก็คือ การพัฒนาประเทศไทยที่มีความเข้มแข็ง ลดความเหลื่อมล้ำ และมีการพัฒนาที่ยั่งยืน
หน้า 10 หนังสือพิมพฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3475 วันที่ 2-5 มิถุนายน 2562
