ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 7 สิงหาคม 2561 เป็นวันสุดท้ายที่สำนักงานกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กำหนดให้เอกชนที่สนใจมารับเอกสารประมูลคลื่น 900/1800 เมกะเฺฮิรตซ์ แต่เมื่อเวลา 16.30 น. ครบกำหนดเวลาแล้วแต่ ปรากฏว่า "ทรู" ไม่มารับเอกสารแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามแม้ว่าในวันที่ 7 สิงหาคมฯ ทรู จะไม่มารับเอกสารที่สำนักงาน กสทช.แต่ถ้า ทรู โหลดเอกสารในเว็บไซต์ประกาศเชิญชวนสามารถมายื่นคำขอเพื่อร่วมประมูลคลื่นได้ เนื่องจากกลุ่มทรู มีประสบการณ์เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่มาก่อน
ส่วนหลักเกณฑ์ประมูลคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ มีการปรับหลักเกณฑ์ในการประมูลคลื่น โดยแบ่งใบอนุญาตที่จะจัดการประมูลออกเป็น 9 ใบ ขนาดความถี่ใบละ 5 เมกะเฮิรตซ์ ผู้ประมูลแต่ละรายสามารถประมูลได้สูงสุด 4 ใบอนุญาต ราคาเริ่มต้นใบละ 12,486 ล้านบาท เคาะราคาเพิ่มขึ้นครั้งละ 25 ล้านบาท โดยผู้เข้าร่วมการประมูลต้องวางหลักประกันการประมูล 2,500 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงจากหลักเกณฑ์เดิมที่แบ่งคลื่นความถี่ จำนวนทั้งหมด 45 เมกะเฮิรตซ์ ออกเป็น 3 ใบอนุญาต ขนาดใบละ 15 เมกะเฮิรตซ์ อายุใบอนุญาต 15 ปี ราคาเริ่มต้นประมูล 37,457 ล้านบาท
ขณะที่หลักเกณฑ์ประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ใบอนุญาต 1 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 5 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้นใบละ 35,988 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาหลังหักค่าระบบป้องกันการรบกวนจากการใช้คลื่นความถี่ โดยเคาะราคาเพิ่มขึ้นครั้งละ 75 ล้านบาท ซึ่งผู้เข้าร่วมการประมูลต้องวางหลักประกันการประมูล 1,800 ล้านบาท ทั้งนี้สำหรับการชำระค่างวดนั้นจะแบ่งการชำระออกเป็น 4 งวด ดังนี้ งวดที่ 1 ชำระ 4,020 ล้านบาท พร้อมหนโดยแบ่งการชำระออกเป็น 4 งวด ดังนี้ งวดที่ 1 ชำระ 4,020 ล้านบาท พร้อมหนังสือค้ำประกันการชำระค่าเงินประมูลฯ ในส่วนที่เหลือ ภายใน 90 วัน, งวดที่ 2 ชำระ 2ชำระ 2,010 ล้านบาท พร้อมหนังสือค้ำประกันการชำระค่าเงินประมูลฯ ในส่วนที่เหลือ ภายใน 15 วัน เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 2 ปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต, งวดที่งวดที่ 3 ชำระ 2,010 ล้านบาท พร้อมหนังสือค้ำประกันการชำระค่าเงินประมูลฯ ในส่วนที่เหลือ ภายใน 15 วัน เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 3 ปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต และงวดที่ 4 ชำระเงินค่าประมูลส่วนที่เหลือทั้งหมด ภายใน 15 วัน เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 4 ปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต