ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป เข้าสู่ระบบการเผยแพร่ผ่านแอปพลิเคชัน AIS PLAY หรือแอพพลิเคชั่นอื่นใดของบริษัทในเครือเอไอเอสในทันทีต่อไป แต่เอไอเอสได้ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องปฎิบัติตามประกาศของกสทช. เรื่อง Must Carry และ ล่าสุด วันนี้ (11 กรกฎาคม 2561) ศาลได้พิจารณา ยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาด้วย 2 เหตุผลหลักคือ 1. ประกาศของกสทช.เรื่อง Must Have และ Must Carry นั้น ไม่ได้รวมถึงการเผยแพร่กิจการโทรทัศน์แบบ OTT (การเผยแพร่โทรทัศน์ทางอินเทอร์เน็ต) เนื่องจาก กสทช. ได้ออกประกาศเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เมื่อปีพ.ศ.2555 ยังไม่มีการประกอบกิจการ OTT อีกทั้งประกาศเรื่อง Must Have และ Must Carry มีผลบังคับใช้แก่การเผยแพร่กิจการทางโทรทัศน์ฯ จึงไม่อาจนำมาใช้ประโยชน์ในการเผยแพร่กิจการโทรคมนาคม
และ 2. ใบอนุญาตของบริษัทในเครือเอไอเอสที่ได้รับจากกสทช. ครอบคลุมถึงกิจการเผยแพร่โครงข่ายโทรทัศน์วิทยุกระจายเสียงเท่านั้น หากจะดำเนินกิจการส่งสัญญาณหรือเผยแพร่รายการทาง Mobile network จะต้องมีใบอนุญาตในกิจการเผยแพร่โครงข่ายโทรคมนาคมอีก 1 ใบอนุญาตแยกแตกต่างกัน ซึ่งจะต้องได้รับใบอนุญาตจากกสทช.เช่นเดียวกัน ดังนั้น บริษัทในเครือเอไอเอสจึงไม่มีสิทธิที่จะใช้ประโยชน์จากประกาศของกสทช. เรื่อง Must Carry อิูลที่มีลิขสิทธิ์ของผู้อื่น เพื่อถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ผ่านแอป AIS Play บนมือถือ