‘โซลาร์ลา’รุกต่อยอดแอพฯ

06 ก.พ. 2560 | 11:00 น.
“โซลาร์ลา” เผยหลังผุดแอพพลิเคชัน มียอดดาวน์โหลดถึงหมื่นราย เผยเป็นผู้ประกอบการรายแรกของไทย ร่วมงานเว็บซัมมิท 2016 ในกลุ่มเทคสตาร์ตอัพ

นางสาวประภารัตน์ ตังควัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท นอร์ติส กรุ๊ปฯ เปิดเผยว่าขณะนี้ แอพพลิเคชัน“โซลาร์ลา”(SOLARLAA) สตาร์ตอัพ ซึ่งให้ความรู้ด้านพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ และตลาดซื้อขายสินค้าพลังงานทดแทนออนไลน์รายแรกในประเทศไทย ปรากฏว่ามียอดดาวน์โหลดแล้วกว่าหมื่นราย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 อำเภอทั่วประเทศไทย

นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้ไปจัดแสดงเทคโนโลยีในกลุ่มเทคสตาร์ตอัพ (Tech StartUp) ภายในงานเว็บ ซัมมิท 2016 (Web Summit 2016) ที่กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส รายเดียวของประเทศไทยอีกด้วย หลังจากเปิดตัวแอพพลิเคชันโซลาร์ลาเพียงไม่กี่เดือน

อย่างไรก็ตามในปีนี้ บริษัทยังคงรุกขยายกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เชิงพาณิชย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการในแผนการพัฒนากว่า 50 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้มีโครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาพันธมิตรธุรกิจในท้องถิ่นอยู่ 4 โครงการ มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 20 เมกะวัตต์ นอกจากนั้น ยังพร้อมที่จะรุกขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนรูปแบบพลังงานแสงอาทิตย์ในภูมิภาคเอเชีย โดยร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาโครงการ เพื่อผลักดันให้นอร์ติสก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจพลังงานในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน อาทิเช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา และอินโดนีเซีย ซึ่งตั้งเป้าว่าจะลงทุนพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศกว่า 30 เมกะวัตต์ ภายในปี 2562

นอกจากนั้น นอร์ติสยังเจาะกลุ่มลูกค้าครัวเรือนรายย่อย ด้วยแนวโน้มของธุรกิจด้านพลังงานนั้นมีทิศทางที่ดีและการตื่นตัวของอาคารธุรกิจและบ้านเรือนที่ติดตั้งเพื่อลดค่าไฟ อีกทั้งในระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ต้นทุนของระบบเหล่านี้ลดลงถึง 60-70% พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์จึงสามารถผลิตจากเงินลงทุนติดตั้งที่ต่ำและง่ายกว่า จึงเชื่อว่า การลงทุนระดับครัวเรือนจะสามารถติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ได้มากขึ้น โดยได้รุดหน้าแคมเปญ “โซลาร์ลา” สตาร์ตอัพแอพพลิเคชันให้ความรู้ด้านพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ และมาร์เก็ตเพลสออนไลน์เจ้าแรกในไทย ภายใต้ “โครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์สำหรับบ้านเรือน สถานศึกษา และสถานประกอบการ” โดยจะใช้นโยบายเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งจะสามารถช่วยประเทศประหยัดพลังงานจากการผลิตไฟฟ้าประหยัดไฟฟ้า ไ ด้ประมาณ 15 ล้านหน่วย คิดเป็นมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,231 วันที่ 5 - 8 กุมภาพันธ์ 2560