สามารถฯเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค 4.0 ตั้งเป้ารายได้ 2 หมื่นล.

26 ม.ค. 2560 | 11:00 น.
เป็นเพราะนโยบายของรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช. ตั้งเป้าให้ประเทศไทยก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0

นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ต้องปรับเปลี่ยนองค์การรับกับยุคดิจิตอลที่มีการแข่งขัน พร้อมกับเผยทิศทางธุรกิจเข้าภายใต้แนวความคิด “SAMART 4.0Transformation to success and Beyond”

ตั้งเป้า 2 หมื่นล.

สำหรับในปี 2560 หัวเรือใหญ่ของกลุ่มสามารถ คือ นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ วางเป้ารายได้ของกลุ่มสามารถที่มีทั้งสิ้น 4 สายธุรกิจหลักไว้จำนวน 2 หมื่นล้านบาท

ขับเคลื่อนทุกกลุ‹ม

สำหรับสายงานด้านไอซีที ภายใต้สายงานนี้ คือ บริษัทสามารถ เทลคอม จำกัด (มหาชน)หรือ แซมแทล ซึ่งเป็นผู้นำในสายนี้มีรายได้ 9,000 ล้านบาทเนื่องจากในปัจจุบันมีงานในมือแล้วมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาทล่าสุดได้งานโครงการสัญญาเช่าระบบคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสำหรับธุรกิจหลักกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มูลค่า 2,639 ล้านบาท เป็นต้น

ส่วนสายธุรกิจบริการสาธารณูปโภค (Utilities & Transportations) ตั้งเป้ารายได้กลุ่มนี้จำนวน 4,200 ล้านบาท ภายใต้สายงานในกลุ่มนี้ คือ บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ CATS ให้บริการศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา มีรายได้ประจำอยู่ที่ 1.8 ล้านบาทต่อปี

ขณะที่สายธุรกิจเทคโนโลยีและอื่นๆ ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่2,300 ล้านบาท บริษัท วันทูวันคอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 1,300 ล้านบาท มีงานในมือแล้ว 900 ล้านบาท จากลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 1,300 ล้านบาทและภายในอีก 4 ปีข้างหน้า ตั้งเป้ารายได้ 2,500 ล้านบาท ส่วนเป้ารายได้อีก 1,000 ล้านบาทของสายธุรกิจนี้จะมาจาก บริษัทวิชั่นแอนด์ ซีเคียวริตี้ ซิสเต็มจำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านกล้องวงจรปิด

รุก “โอเพ่นเอ็มวีเอ็นโอ”

สำหรับสายธุรกิจมัลติมีเดียบริษัทที่อยู่ภายใต้ในกลุ่มนี้ คือ บริษัท สามารถไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) หรือ SIM ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 4.5 พันล้านบาท เป็นสายธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านทิศทางและโครงสร้างธุรกิจมากที่สุด เนื่องจากต้องสร้างความเข้มแข็งก้าวสู่ยุคดิจิตอลภายใต้คอนเซ็ปต์ “SIM Digital Life” ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.กลุ่ม Mobile &Security ดำเนินธุรกิจจำหน่ายมือถือและอุปกรณ์เสริม, นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนขยายไปยังประเทศลาว พม่า เวียดนาม และ กัมพูชา 2. โอเปอเรเตอร์และโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบด้วยธุรกิจ MVNO (ไม่ได้มีโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นของตนเอง) บนเครือข่ายของ แคท หรือ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ให้บริการภายใต้ชื่อ “Open MVNO”ภายในเร็ว ๆนี้ และ ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวธุรกิจใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับเครื่องมือสื่อสาร (Trunked Mobile) 3. Digital Commerce ครอบคลุมธุรกรรมออนไลน์ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้น และ 4.ไอ-สปอร์ตจากธุรกิจเดิมที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารกีฬา ได้จัดทัพธุรกิจใหม่ด้วย MP22-3230-b การเพิ่มสายธุรกิจอย่างการจัดอีเวนต์ให้เหมาะกับท้องถิ่นมากขึ้น จัดทัวร์เชียร์บอล สร้างแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กีฬา (isportmart.com) รวมถึงธุรกิจเกม และ เอเจนต์ดูแลนักกีฬา และเป็นบริษัทที่มีโอกาสเข้าในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในปีนี้

ลดเป‡ามือถือ

อย่างไรก็ตามผลกระทบจากการที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย ลงมาเล่นเป็นผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยการแจกเครื่องฟรี จากเดิมที่จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไอ-โมบาย ปีละ 4 ล้านเครื่อง ในปี 2560 ต้องปรับยอดขายเหลือแค่ 1 ล้านเครื่องเท่านั้น

“โอเปอเรเตอร์มือถือลงมาเล่นตลาดเองขายราคา 490 บาท แต่ ไอ-โมบาย จำหน่ายราคา 2,900 บาท เมื่อมีการตัดราคาสินค้า บริษัทไม่สามารถระบายสต๊อกสินค้าได้ทัน บริษัทจึงได้ปรับโครงสร้างใหม่โดยจะขายไอ-โมบาย ให้น้อยลง และ จะนำมือถือแบรนด์อื่นๆ เข้ามาจำหน่าย อย่างล่าสุดเปิดตัวมือถือแบล็กโฟน 2 เข้ามาจำหน่าย “ นายวัฒน์ชัย กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,230 วันที่ 26 - 28 มกราคม 2560