‘SCN’ สร้างธุรกิจสีเขียว ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม
การดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบสังคม กลายเป็นพันธกิจที่ทุกองค์กรพึ่งกระทำ โดยเฉพาะการดูแลสิ่งแวดล้อม สำหรับบริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN “ดร.ฤทธี กิจพิพิธ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บอกว่า ธุรกิจของ SCN ทำเกี่ยวกับพลังงานสะอาดมาโดยตลอด โดยเริ่มนำเข้าก๊าซ NGV ตั้งแต่ 20 กว่าปีก่อน หลังจากนั้นจึงต่อยอดสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ธุรกิจการเป็นผู้ผลิตและขนส่งก๊าซธรรมชาติ LPG, NGV รวมถึงการนำเข้าและจำหน่ายยานยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือก
จากแนวคิดการทำธุรกิจ ที่ต้องการเป็นผู้ให้บริการในธุรกิจพลังงานที่เป็นมิตรต่อโลกและสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
ยกตัวอย่าง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่มินบู สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ปัจจุบันเริ่มเฟส 1 แล้วจำนวน 50 เมกะวัตต์ (MW) และยังมีแผนขยายไปอีก 170 เมกะวัตต์ ส่วนหนึ่งของธุรกิจคือช่วยให้ประชาชนเมียนมาร์ได้มีพลังงานไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ และ SCN ยังมีแผนลงทุนในอีก 2-3 ปี โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV ผ่านบริษัท กรีนเอิร์ธ พาวเวอร์ ไทยแลนด์ จำกัด หรือ GEP ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ที่เตรียมพร้อมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ส่วนของธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) บนหลังคาโรงงาน ซึ่งเป็นลักษณะสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) ตั้งเป้ากำลังการผลิตอยู่ที่ 110 เมะวัตต์ ภายในปี 2566 จากปัจจุบันมีสัญญาในมือแล้วกว่า 17 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2563 ธุรกิจนี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางสนับสนุนให้ไทยใช้พลังงานสะอาด และเป็นธุรกิจที่ยังคงมีความต้องการต่อเนื่อง เป็นเป็นตลาดที่เติบโตได้ไม่จำกัด
“ธุรกิจที่เราทำ ช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในกระบวนการทำงาน SCN ก็ให้ความสำคัญกับมาตรฐานการทำงานสูงสุด ดูแลไม่ให้กระทบกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงความปลอดภัยต่างๆ”
อย่างการทำก๊าซธรรมชาติ ก็คือการเปลี่ยนโรงงานที่สกปรก ใช้เชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดมลพิษ ให้กลายเป็นโรงงานสะอาด ซึ่งเมื่อก่อน เราไม่เคยมี PM 2.5 จนกระทั้งรัฐบาลเปลี่ยนมาสนับสนุนดีเซล รถขนส่งเปลี่ยนไปใช้ดีเซลเกือบหมด ทำให้เกิด PM 2.5 มากขึ้น
ส่วนธุรกิจรถเมล์พลังงานสะอาด ที่ได้ส่งมอบแล้ว 489 คัน ให้แก่ ขสมก.ทำให้ประชาชนได้ใช้บริการรถเมล์ ขสมก. ที่มีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ตอบสนองผู้ใช้บริการรองรับการเจริญเติบโตของเมืองในอนาคต และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งล่าสุดจากแผนฟื้นฟูของ ขสมก. จะมีความต้องการรถอีกประมาณ 2,500 คัน ตรงนี้ SCN ก็พร้อมที่จะลงทุนต่อ
“ดร.ฤทธี” กล่าวว่า อุปสรรคใหญ่ของการทำธุรกิจพลังงานสะอาด อยู่ที่นโยบายภาครัฐ และจังหวะในการลงทุน เพราะพลังงานสะอาดต้องใช้ต้นทุนสูง ถ้ารัฐจะส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดให้แพร่หลาย รัฐต้องอุดหนุน(subsidize)
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,644 วันที่ 14 - 16 มกราคม พ.ศ. 2564