กลุ่มเซ็นทรัล หนุนสุรินทร์ พัฒนา'โคก หนอง นา โมเดล'

28 ก.ย. 2563 | 11:11 น.

กลุ่มเซ็นทรัล สานต่อศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิตแบบบูรณาการเชิงพื้นที่ 'โคก หนอง นา โมเดล' จังหวัดสุรินทร์ เพื่อฟื้นฟูความเป็นอยู่เกษตรไทยสู่ความยั่งยืน

จากปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อีสานตอนล่าง กลุ่มเซ็นทรัล โดยโครงการเพื่อสังคม “เซ็นทรัล ทำ” จึงร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ร่วมดำเนิน โครงการ 'สระน้ำไร่นาประชารัฐสามัคคี เกษตรอินทรีย์ วิถีสุรินทร์ 4.0' หรือ 'โคก หนอง นา โมเดล' ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในการแก้ปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบของโควิด-19 ภายใต้การขับเคลื่อนของกระทรวงมหาดไทย

กลุ่มเซ็นทรัล หนุนสุรินทร์ พัฒนา'โคก หนอง นา โมเดล'

นายพิชัย  จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้กับเกษตรกรไทย กลุ่มเซ็นทรัลได้ ร่วมสนับสนุนงบประมาณแก่ทางจังหวัดสุรินทร์ ในการขุดสระน้ำเพื่อการเพาะปลูก ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการเพื่อสังคมหลักของกลุ่มเซ็นทรัล 'เซ็นทรัล ทำ'- ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ ในพื้นที่เป้าหมายเบื้องต้นจำนวน 15 สระ ให้แก่เกษตรกรในตำบล   หนองสนิท อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งในขณะนี้ขุดเสร็จเรียบร้อยแล้วจำนวน 4 สระ บนพื้นที่ของเกษตรกร 4 ราย ในตำบลหนองสนิท และจะทยอยขุดที่เหลือหลังฤดูเก็บเกี่ยว ทั้งนี้กลุ่มเซ็นทรัลจะขยายผลโครงการนี้ไปยังพื้นที่ในจังหวัดอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย

นอกจากนี้ กลุ่มเซ็นทรัล และทีมท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ได้ร่วมลง พื้นที่แปลงเพาะปลูกและวางแผนการผลิตร่วมกัน  กับกลุ่มเกษตรกรของ สหกรณ์การเกษตรพืชผักอินทรีย์หนองสนิท จำกัด มีสมาชิก 96 ครัวเรือน แบ่งเป็น 6 กลุ่ม พื้นที่ในการปลูก 60 ไร่ ซึ่งได้รับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไทย (Organic Thailand) โดยทางกลุ่มมีการวางแผนการผลิตพืชผักร่วมกับทีมท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต อย่างเป็นระบบ สลับผลัดเปลี่ยนผลผลิตหมุนเวียนกันทั้ง 6 กลุ่ม เพื่อให้ผลผลิตตรงกับความต้องการของตลาด มีปริมาณหมุนเวียนตลอดทั้งปี สะดวกในการควบคุมแมลงศัตรูพืช ทำให้ได้ผลผลิตมีคุณภาพจำหน่ายได้ราคาดี โดยมีผลผลิตที่โดดเด่น เช่น ฝรั่งพันธุ์หวานพิรุณ แก้วมังกรเนื้อม่วงและเนื้อเหลืองถั่วฝักยาวสีม่วงพันธุ์ราชมงคล ข้าวโพดพันธุ์พื้นบ้าน แตงโมช้างแสดเนื้อส้ม และผักพื้นบ้านต่างๆ   

 

ขณะนี้ทางกลุ่มเซ็นทรัล ได้ให้เกษตรกรนำผลผลิตเข้าไปจำหน่ายที่ตลาดจริงใจ Farmers' Market สาขาสุรินทร์ ในท็อปส์ มาร์เก็ต และเมื่อกลุ่มเกษตรกร มีความพร้อมมากขึ้นและมีผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการของตลาด กลุ่มเซ็นทรัล    ก็จะนำผลผลิตเข้าไปจำหน่ายใน ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาอื่นๆ และธุรกิจในเครือของกลุ่มเซ็นทรัล อีกด้วย

 

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า โครงการ 'สระน้ำไร่นาประชารัฐสามัคคี เกษตรอินทรีย์ วิถีสุรินทร์ 4.0' เป็นการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการทำ'เกษตรทฤษฎีใหม่' ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ภายใต้แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีการแบ่งพื้นที่สัดส่วน '30.30.30.10' ได้แก่ พื้นที่สำหรับแหล่งน้ำ 30% พื้นที่ดินเพื่อเป็นที่นาปลูกข้าว 30% พื้นที่ดินสำหรับปลูกพืชผัก สมุนไพร ไม้ผล ไม้เศรษฐกิจ 'ป่า 3 อย่างประโยชน์4 อย่าง' 30% และ พื้นที่ดินสำหรับสร้างที่อยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์ 10% เช่น เลี้ยงปลา เป็ดไก่ สุกรและโค 

สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในลักษณะ “ประชารัฐสามัคคี” เริ่มต้นจากการสำรวจความต้องการแหล่งน้ำขนาดใหญ่ในไร่นาของเกษตรกร แล้วดำเนินการขุดสระน้ำในไร่นาในรูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล” โดยได้รับการสนับสนุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากกลุ่มเซ็นทรัล ภาคเอกชน และภาคประชาชน ผ่านการจัดกิจกรรมผ้าป่าสามัคคี “น้ำใจน้ำมันปันสุข” 

 

ทั้งนี้ เมื่อเกษตรกรที่ได้รับสระน้ำจากโครงการดังกล่าวแล้ว จะต้องพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์เรียนรู้หรือแปลงตัวอย่างด้านการทำเกษตรแบบผสมผสาน เพื่อแบบอย่างแก่เกษตรกร รายอื่น หรือประชาชนทั่วไปที่สนใจเป็นระยะเวลา 5 ปี

 

นอกจากการสนับสนุนพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกเกษตรอินทรีย์ และการพัฒนาคุณภาพผลผลิตแล้ว กลุ่มเซ็นทรัล ยังจะต่อยอดพัฒนาชุมชนเกษตรอินทรีย์บ้านสำโรง ตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ให้เป็น'ศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบด้านเกษตรอินทรีย์ การจัดการสิ่งแวดล้อม และแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชน" เพื่อสร้างรายได้เพิ่มแก่เกษตรกร ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทยในชนบทและคนในชุมชนให้ดีขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน