SCG ผนึกพันธมิตรพัฒนานวัตกรรมป้องกันไข้เลือดออก

07 ส.ค. 2563 | 12:42 น.

เอสซีจี ผนึกกำลัง สถาบันปาสเตอร์ ฝรั่งเศส และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมป้องกันการระบาดของโรคไข้เลือดออก เพื่อแก้ปัญหาสาธารณสุขอย่างยั่งยืน นำร่องทดสอบการใช้งานในพี้นที่ จ.ระยอง

ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ดูแลงานเทคโนโลยีและนวัตกรรม ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี เปิดเผยว่านวัตกรรมกับดักยุงลาย หรือ The Mosquito Trap เป็นความร่วมมือระหว่างธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี และสถาบันปาสเตอร์ ฝรั่งเศส โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะหานวัตกรรมเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาโรคไข้เลือดออกซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลก โดยเฉพาะในพื้นที่เขตร้อนอย่างเอเชียและแอฟริกา ประเทศไทยได้รับความร่วมมือจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ในการทดสอบทั้งในห้องปฏิบัติการและภาคสนาม เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของกับดักยุงนี้ก่อนนำไปใช้อย่างแพร่หลายต่อไป

 

นวัตกรรมกับดักยุงลาย มีการทำงาน 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วน “กับดักยุง” ทำหน้าที่ดึงดูดยุงลายให้เข้ามาวางไข่ในกับดัก และ “สารเติมแต่งพิเศษที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” โดยเอสซีจีพัฒนาต่อยอดการใช้สาร BTI (Bacillus thuringiensis israelensis) ซึ่งเป็นสารกำจัดลูกน้ำยุงลายที่ใช้กันอยู่เดิม โดยคิดค้นสารเติมแต่งเพื่อเสริมให้BTI มีคุณสมบัติสามารถเกาะติดกับขายุงได้ดี เมื่อยุงลายบินไปเกาะในแหล่งน้ำแห่งใหม่ สารพิเศษที่ติดมากับขายุงจะละลายลงในน้ำ ช่วยกำจัดลูกน้ำยุงลายในแหล่งเพาะพันธุ์แหล่งใหม่ โดยไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในแหล่งน้ำนั้น ๆ

SCG ผนึกพันธมิตรพัฒนานวัตกรรมป้องกันไข้เลือดออก

ล่าสุด เอสซีจี ได้นำร่องทดสอบประสิทธิภาพของนวัตกรรมกับดักยุงลาย ในส่วนของ “ยุงลายบ้าน” ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตชุมชนและครัวเรือน โดยได้รับความร่วมมือจากเทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง ในการนำนวัตกรรมดังกล่าวไปทดสอบใช้งานจริงในพื้นที่ชุมชนตลาดมาบตาพุดและชุมชนบ้านบน จ.ระยอง จำนวนกว่า 50 ครัวเรือน ทั้งนี้จะใช้เวลาในการเก็บข้อมูลรวม 3 เดือน เพื่อนำไปพัฒนากับดักยุงลายก่อนที่จะเผยแพร่ใช้งานต่อไป โดยก่อนหน้านี้ ได้ทดสอบการใช้งานนวัตกรรมกับดักยุงลายทั้งในห้องทดลองและภาคสนาม จำนวน 200 จุด โดยวิจัยภาคสนามที่ จ.จันทบุรี ซึ่งมี “ยุงลายสวน” ชุกชุมตลอดปี เนื่องจากเป็นพื้นที่สวนป่าใกล้ที่พักอาศัย ซึ่งได้ผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ

ด้าน ดร.อภิวัฏ ธวัชสิน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ระยอง มีอัตราผู้ป่วยสูงเป็นอันดับสองของประเทศ ดังนั้น ชุมชนจึงควรมุ่งเน้นการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกล่วงหน้า โดยการควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน โดยมุ่งเน้นดำเนินการควบคุมอย่างเข้มข้นในพื้นที่เสี่ยงสูงและในช่วงฤดูฝน 

SCG ผนึกพันธมิตรพัฒนานวัตกรรมป้องกันไข้เลือดออก

ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ออกมาตรการในการป้องกันควบคุมไข้เลือดออกอย่างต่อเนื่อง อาทิ การวิจัยพัฒนาสารดึงดูดให้ยุงลายมาวางไข่ และการใช้สารกำจัดลูกน้ำยุงลายชนิดใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนานวัตกรรมกับดักยุงลายจากเอสซีจี และสถาบันปาสเตอร์ ฝรั่งเศส ถือว่าช่วยตอบโจทย์ด้านการสาธารณสุขเป็นอย่างมาก หากสามารถนำไปใช้แพร่หลายในชุมชน เชื่อมั่นว่าจะช่วยยกระดับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของชุมชนได้อย่างยั่งยืน

ในขณะที่ นายถวิล โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่าเทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง เห็นความสำคัญของการรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออกแก่ประชาชน โดยอาศัยความร่วมมือร่วมใจของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ออกให้ความรู้กับประชาชนถึงวิธีป้องกันและกำจัดลูกน้ำยุงลายที่เป็นพาหะไข้เลือดออก สำหรับครั้งนี้ ขอขอบคุณที่ทางเอสซีจี มอบ “นวัตกรรมกับดักยุงลาย” โดยเลือกนำร่องทดลองที่ชุมชนตลาดมาบตาพุด และชุมชนบ้านบนจำนวนกว่า 50 ครัวเรือน นับเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างมาก

 

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีผู้เจ็บป่วยและเสียชีวิตจากไข้เลือดออกโดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรคเพิ่มขึ้นทุกปี เฉลี่ยมากกว่า 1 แสนรายต่อปี และอัตราการเสียชีวิตมากกว่า 100 รายต่อปี ในปี 2563 มีรายงานผู้ป่วยไข้เลือดออกทั่วประเทศกว่า25,000 ราย เสียชีวิต 15 ราย โดย 5 จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุด ได้แก่ ชัยภูมิ ระยอง ขอนแก่น แม่ฮ่องสอน และนครราชสีมา